N L P ภาษา
สมอง มหัศจรรย์ เทคโนโลยีสร้างความสำเร็จชั่วข้ามคืน
------------------------------------------
เอ็นแอลพี (NLP
: Neuro Linguistic Programming )
เป็นศาสตร์ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา เป็นคำที่ใช้แพร่หลายในหมู่
นักจิตวิทยาคลินิก นักจิตบำบัด จิตแพทย์ นักพัฒนาศักยภาพ นักเจรจาต่อรอง นักการตลาด นักขาย และนักพูดโน้มน้าวจิตใจ ว่ากันว่าผู้ที่คิดค้นคำนี้ คือ
ศาสตราจารย์ริชาร์ด แบรนด์เลอร์ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มีหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น จอห์น
กรินเดอร์ , มิลตัน เฮส อีริคสัน
, เจอรัล เคน , โจเซฟ โอ คอนเนอร์
, เท็ด เจมส์ ยาร์ด
วูดสมอล
, เวนส์ เอฟ เพอกินส์
,ไมเคิล ฮอลล์ และท่านอื่น ๆ
ความหมายของ NLP
N = Neuro หมายถึง
ระบบประสาทหรือระบบสมอง เทคโนโลยีเอ็นแอลพี ถือว่า มนุษย์รับรู้สิ่งต่าง ๆ
ผ่านตา หู จมูก
ลิ้นและสัมผัส แล้วแปลความหมายจากเหตุการณ์สู่กระบวนการคิด
โดยจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก
ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทหรือสมองทำงาน ก่อให้เกิดการแสดงอารมณ์และพฤติกรรม
L = Linguistic หมายถึง
วิธีการที่มนุษย์ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการตอบสนองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใช้ภาษาไปแปลความ แล้วสื่อไปยังตนเองและผู้อื่น ศาสตร์เอ็นแอลพีพบว่า ถ้อยคำที่คิดและพูดมีผลต่อพฤติกรรมโดยตรง
P = Programming
หมายถึง กระบวนการปลูกฝัง วิธีตคิด
วิธีการใช้ภาษา เพื่อสร้างรูปแบบการคิดใหม่ ที่ทรงพลัง
เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ
คำนิยามสั้น ๆ ของเทคโนโลยี เอ็นแอลพี คือ
1.ศิลปะและศาสตร์ในการติดต่อสื่อสารแบบหวังผลเลิศ
2.กุญแจสู่การเรียนรู้ที่รงพลัง
3.เคล็ดลับสู่เป้าหมายสำหรับทุก ๆ
สิ่งที่ต้องการในชีวิต
4.คู่มือสำหรับพัฒนาระบบการคิด ระบบประสาทและสมอง
5.เคล็ดลับสู่ความสำเร็จชั่วข้ามคืน
6.เทคโนโลยีผ่าตัดด้านลบและสร้างตัวตนใหม่
แนวคิดหลัก เอ็นแอลพี
เชื่อว่าปัญหาอันเนื่องมาจากสภาพอารมณ์ของคนเกิดจากการทำงานของระบบประสาทและจิตใจที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย
เกิดจากการลงโปรกรม หรือการปลูกฝัง
หรือสั่งสมประสบการณ์ผ่านจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์
แล้วถูกนำไปแปลความบนพื้นฐาน
ความเชื่อที่ผิด ๆ แล้วถูกจัดเก็บเป็นระบบความจำที่ไร้ระเบียบ
เอ็นแอลพี คือ กระบวนการใช้ภาษาเป็นสื่อคิด แล้วส่งข้อมูลไปยังสมอง และสมองจะสั่งให้ร่างกายทำงานตามนั้น
< การควบคุมสมองให้ทำงานอย่างมีเป้าหมาย ทำโดย
1.การใช้สมองจินตนาการ ความฝันหรือการจินตนาการถึงเป้าหมายสำคัญของชีวิต
เป็นกระบวนการที่สมองวาดแผนที่ความสำเร็จที่ทรงพลังที่สุด
หากมีจินตนาการโดยเห็นภาพเด่นชัดและทำบ่อย ๆ
สมองจะรับรู้ถึงเป้าหมายและจะหาทางทำให้เป็นจริงได้
2. การฝึกฟังเสียงในจิตใจ หากฝึกฟังเสียงในจิตใจจนชำนาญ จะทำให้เป็นคนยืดหยุ่น มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
3. การฝึกประสาทรับรู้ให้ตื่นตัว
< การเปลี่ยนความเชื่อ
คนเราทุกคนมีความเหมือนกันในเรื่องเนื้อที่สมองและอวัยวะที่ทำหน้าที่เหมือนกัน
สิ่งที่ทำให้เราต่างกัน ได้แก่
โปรแกรมหรือ ซอฟแวร์ ที่บรรจุเข้าไปในตัว
โปรแกรมที่ว่า คือ “ความเชื่อ” ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดความคิด ความรู้สึก
และการกระทำ วิธีการเปลี่ยนความเชื่อทำได้โดย
การเปลี่ยนโปรแกรมสำหรับสมองและจิตใจใหม่ ด้วยการลงมือทำ
การเปลี่ยนแปลงความเชื่อ
มีขั้นตอนดังนี้
1.กำหนดเป้าหมายใหม่ต้องเป็นเป้าหมายที่แท้จริง
2.ลงมือทำเดี๋ยวนี้
3.หากลยุทธ์เฉพาะตัว
วิธีเพาะชำความเชื่อใหม่
1.สร้างพื้นที่ว่างภายในใจอย่างเป็นกลาง
เป็นวิธีถามคำถามกับตนเองในเรื่องต่าง ๆ และ
จะพบว่าความเชื่อต่อมุมมองในเรื่องต่าง
ๆที่คุ้นเคยจะเปลี่ยนไป
2.รำลึกถึงความเชื่อเก่า ๆ ครั้งหนึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่
3.ค้นหาสิ่งที่สงสัย
4.เข้าไปพิพิธภัณฑ์แห่งความเชื่อ อะไรคือความเชื่อเก่า ๆ
ที่สามารถขจัดอย่างง่ายดาย
อะไรที่จะไม่มีวันเชื่ออีกต่อไป
อะไรที่เคยเชื่อและตอนนี้รู้ว่าเป็นเรื่องไร้เหตุผล
5.ค้นหาความเชื่อใหม่
5.เปิดรับความเชื่อใหม่
6.กำหนดพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ จัดพื้นที่ว่างในจินตนาการแล้วกำหนดเป้าหมายหลักให้เห็น
เด่นชัด
ในการเปลี่ยนแปลงความเชื่อให้สำเร็จ
ต้องสร้างสภาวะอารมณ์ให้ตื่นตัวสุดขีด (Peak State of Mind and Body ) โดยปลุกประสาทให้ร่างกายตื่นตัวก่อนเป็นอันดับแรก
ให้ร่างกายตื่น สดใส มีชีวิตชีวาตลอดเวลา
มากเท่าไรยิ่งดี
วิธีเปลี่ยนอารมณ์เบื่อ
เซ็ง ไร้พลัง
1. การเคลื่อนที่ทางร่างกาย (Physical Movement) วิธีง่าย ๆ คือ ให้ยืนตัวตรง หายใจลึก ๆ 3 นาที
ยิ้มกว้างที่สุด
เดินให้เร็วกว่าปกติ 2 เท่า ไม่ก้มหน้า
หัวเราะดัง ๆ โดยไม่ต้องรู้สึกขำ
2.
การเปลี่ยนจุดสนใจอย่างสิ้นเชิง ( Mental Focus ) ทำโดยค้นหาสิ่งใหม่ ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่แท้จริงที่ตั้งไว้
< สร้างแบบพฤติกรรมใหม่
รูปแบบพฤติกรรมสร้างความเป็นเลิศ
1.พูดถึงเป้าหมายเสมอ
2.ระบุสิ่งที่สามารถทำได้เดี๋ยวนี้
3.ระบุ วัน เวลา สถานที่
และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบรรลุเป้าหมายให้ชัด
4.สร้างการรับรู้ด้วยถ้อยคำ
5.ซอยแผนการออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ
แล้วทำทีละชิ้นเป็นเรื่อง ๆ ไป
6.พกพาความฝันติดตัวตลอดเวลา
7.หาตัววัดความสำเร็จ
8.
สร้างอารมณ์ดึงดูดใจตนเองให้นั่งไม่ติด
9. ตรวจสอบสภาพแวดล้อม ให้สำรวจ
เป้าหมายหลักว่าสอดคล้องกับเป้าหมายอื่น ๆ
หรือสอดคล้องกับคุณค่าหลักของชีวิตหรือไม่
หากไม่สอดคล้องอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนทั้งเป้าหมายและคุณค่าของชีวิต
การสร้างที่ยึดเหนี่ยวเพื่อสับไกเรียกสภาวะสุดยอด
การที่จิตใจของคนเราเป็นรูปแบบใดเกิดจากการเรียกข้อมูล
ที่สมองบันทึกไว้ผ่านระบบการคิดและประเมินผลอย่างรวดเร็ว
เรียกว่าเป็นการสับไกเรียกสภาวะอารมณ์อย่างรวดเร็วจนแทบไม่รู้ตัว
เป็นการสร้างอารมณ์ที่ก่อให้เกิดพลังไร้ขีดจำกัดในการบรรลุเป้าหมาย การสร้างหลักยึดเหนี่ยว
อาจจะเป็นเรื่องราว ถ้อยคำ
เสียงหรือภาพที่จะกระตุ้นให้เรารู้สึกกระตือรือร้นตลอดเวลา
หลักยึดเหนี่ยวนี้จะจัดการอารมณ์ของเรามิให้ออกนอกเส้นทาง ทำให้เราสามารถดึงศักยภาพออกมาใช้ได้ตลอดเวลาไม่มีวันหมด
วิธีสร้างสภาวะสับไกเรียกพลังแห่งความสำเร็จ
1.ระบุพฤติกรรม
หรือสถานการณ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นซ้ำ
2.ค้นหาบุคคล สถานที่ หรือสิ่งของที่จะเชื่อมโยงความคิด
3.เลียนแบบจากคนอื่น
4.เพิ่มตัวกระตุ้น
5.ทดสอบตัวสับไก
< เทคนิคการถอดแบบเพื่อความสำเร็จ
(Modeling)
1. การทำ Rapport หมายถึงการสร้างมิตรภาพ
หรือสร้างความรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน ต่างจากความไว้วางใจ เนื่องจาก Rapport สามารถทำได้ในทันที ขณะที่ความไว้วางใจอาจต้องใช้เวลานานพอสมควร
2. การทำ Matching คือ
การทำตัวให้สอดคล้องทั้งท่วงท่าและจังหวะทำนองให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน
เหมือนการจับคู่เต้นรำ
< พิชิตชัยชนะด้วยภาษากาย ( Body Language)
ภาษากาย คือ
การแสดงท่าทาง หรือปฏิกิริยาทางร่างกายเกิดจากสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด พันธุกรรม
การเรียนรู้ และวัฒนธรรม
การสื่อความหมายบางอย่างจึงเป็นเรื่องที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน
การอ่านอารมณ์คนอื่นจากคำพูดอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องมีความสามารถอ่านภาษากายเขาให้ขาด
และโต้ตอบกลับไปด้วยท่วงท่าที่เหมาะสม
การพิชิตชัยชนะด้วยภาษากาย มีวิธีการ ดังนี้
1.การปรากฏตัว ด้วยความรู้สึก คำพูด
ท่าทาง อารมณ์และการแสดงออกที่ดี
2.เสื้อผ้าและเครื่องประดับเป็นทียอมรับแก่คนทั่วไป
3.ยืนตัวตรง
4.สบตาและยิ้มอยู่เสมอ
5.จับมือเมื่อพร้อม
6.ใช้โทนเสียงที่กระตือรือร้น
< สะกดจิตตนเองเพื่อความเป็นเลิศ ( Self
Hypnosis )
วิธีที่จะเปลี่ยนแปลงแบบแผนเพื่อสร้างแผนที่ชีวิตใหม่
เพื่อให้เป้าหมายทุกอย่างบรรลุผล สมอง จิตใจ และการกระทำจะต้องประสานสอดคล้องกัน
วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความเป้นหนึ่งเดียวกันนี้สามารถทำได้ด้วยวิธีสะกดจิต
ขั้นตอนการสะกดจิตเพื่อปลูกฝังความเชื่อใหม่
1.ทำตนให้คุ้นเคยกับการฝันกลางวัน
2.ขั้นตอนการเตรียมเพื่อสะกดจิตตนเอง
1.1 หาสถานที่สงบ นั่งบนเก้าอี้ในท่าสบาย
ๆ ปล่อยตัวให้ผ่อนคลายที่สุด
1.2หลับตาและผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
แต่บอกตนเองให้มีความตื่นตัวว่า
พร้อมแล้วสำหรับการจะสะกดจิตเพื่อพัฒนาตนเอง
1.3เมื่อผ่อนคลายเต็มที่แล้ว
ให้จินตนาการถึงความมั่นคง ปลอดภัย
สงบสุขและสะดวกสบายจากสถานที่ที่กำลังนั่งอยู่
นิยมใช้วิธีนับ 1 ถึง 10
3.ออกคำสั่งตนเองในระหว่างการสะกดจิตเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ต้องการ
4.ฝึกสะกดจิตทุกวัน
< การเปลี่ยนแปลงตัวเองชั่วข้ามคืน
(Overnight
Transformation)
สูตรเร่งรัดความสำเร็จ
10 ประการ
1.ทุก ๆ วันให้คาดหวังสิ่งดี ๆ
กำลังเกิดขึ้น
2.เริ่มต้นแต่ละวันด้วยการหว่านเพาะเล็ดพันธุ์แห่งความคิดแง่บวก
3.มุ่งไปข้างหน้า อย่าเหลียวหลัง อย่าคิดถึงเรื่องในอดีต
4.จงฝันกลางวัน
5.กล้าที่จะกำหนดเป้าหมายที่สูงส่ง
6.ปลูกฝังความเชื่อใหม่ลงในจิตใจ
7.เรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง
แล้วจงก้าวต่อไป
8.ดื่มด่ำกับแสงอาทิตย์อัสดง
9.เปิดรับทุก ๆ โอกาสที่เข้ามาในชีวิต
10.อยู่กับความฝันทุก ๆ วัน
< การลงโปรแกรมภาษาในจิตใจ
(Language Programming )
สมองจะนำภาษาที่ใช้คิด
หรือถ้อยคำที่พูดไปแปลความ
จัดหมวดหมู่บันทึก แล้วส่งข้อมูลต่อไปเก็บไว้ในจิตใต้สำนึก ภาษาจึงเป็นตัวบงการชีวิต
นักจิตวิทยาเชื่อว่าภาษาที่ใช้จะเป็นตัวหล่อหลอมพฤติกรรมและส่งผลลัพธ์อื่น
ๆ
ภาษาจึงเปรียบเหมือนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เก็บอยู่ในระบบประสาท
ทำหน้าที่สั่งให้ร่างกายและจิตใจทำงาน
วิธีใช้ภาษาสร้างพลังแห่งความสำเร็จ
ซึ่งผู้เขียนประมวลจาก จอห์น กรินเดอร์
มีดังนี้
1.หากมีเหตุการณ์ไม่สบอารมณ์ให้เปลี่ยนสภาวะอารมณ์ที่ใช้ตอบสนองโดยใช้ภาษาตรงข้าม
เช่น หากใครทำให้โกรธ ให้คิดว่า “ขำดี” , “ตลกจัง” , “แปลกดี” หรือ “ นาน ๆ เจอแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน”
2.
อย่าคิดหรือพูดถ้อยคำเชิงทำลาย เช่น “
แย่จัง” “บ้าชัด ๆ” “โชคร้าย” “มีกรรม” ให้พูดว่า”โชคดีกำลังจะมา” “น่าสนใจดี” “ไม่มีอะไรยาก”
3.
คัดเลือกชุดถ้อยคำประจำตัว
การปลูกฝังภาษาลงในสมองให้สามารถสร้างผลงานสุดยอดทุก ๆ วินาที
ต้องมีภาษาสับไกเรียกสภาวะทางอารมณ์ที่ทรงพลัง
เช่น ลองเปล่งเสียงตะโกน
ดังๆ
ให้สุด ๆ พร้อมกำหมัดแน่น ๆ
เกร็งแขนชูขึ้นสูง ๆ ทำติดต่อกัน 5 ครั้ง
ว่า “มันต้องให้ผลซิ”, “หมู ๆ” เมื่อทำแล้วทำให้รู้สึกตื่นตัวและกระตือรือร้น
กระตุ้นอารมณ์ให้สดชื่น จะสามารถปลูกฝังความเชื่อมั่นได้
คำถามสำคัญที่จะสร้างชีวิตที่เหลือเชื่อให้ประสบความสำเร็จชั่วข้ามคืน
ได้แก่
“ เราเป็นใคร ” (Who Am I ? ) , “อะไรคือเป้าหมายสูงสุดในชีวิตเรา” (What” s really my Goal?)
และ
“ จริงหรือไม่? ใช่หรือไม่ ? ” เมื่อถามคำถามสำคัญแล้วต้อง
เชื่อมั่นในตนเอง ลงมือทำเดี๋ยวนี้
ขจัดความกลัวและความสงสัย
ประเมินผลทุกวัน รู้จักยืดหยุ่น
และจงมีชีวิตที่เต็มด้วยพลังอย่างเหลือล้นในทุก ๆ วัน
-----------------------------------
อ้างอิง
สามารถศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม/หนังสือ/อ้างอิง
N
L P ภาษา สมอง
มหัศจรรย์
เทคโนโลยีสร้างความสำเร็จชั่วข้ามคืน
โดย วิศิษฐ์
ศรีพิบูลย์ :ผู้เขียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น