วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

N L P ภาษา สมอง มหัศจรรย์ เทคโนโลยีสร้างความสำเร็จชั่วข้ามคืน



N L P  ภาษา  สมอง  มหัศจรรย์  เทคโนโลยีสร้างความสำเร็จชั่วข้ามคืน
------------------------------------------
                เอ็นแอลพี (NLP : Neuro Linguistic Programming )  เป็นศาสตร์ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา  เป็นคำที่ใช้แพร่หลายในหมู่ นักจิตวิทยาคลินิก  นักจิตบำบัด จิตแพทย์  นักพัฒนาศักยภาพ  นักเจรจาต่อรอง  นักการตลาด นักขาย และนักพูดโน้มน้าวจิตใจ  ว่ากันว่าผู้ที่คิดค้นคำนี้ คือ ศาสตราจารย์ริชาร์ด  แบรนด์เลอร์  แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มีหลายท่าน  ไม่ว่าจะเป็น จอห์น
 กรินเดอร์ , มิลตัน  เฮส อีริคสัน  , เจอรัล  เคน , โจเซฟ  โอ คอนเนอร์  , เท็ด  เจมส์   ยาร์ด 
 วูดสมอล  , เวนส์  เอฟ  เพอกินส์  ,ไมเคิล ฮอลล์ และท่านอื่น ๆ
                ความหมายของ  NLP
                N =  Neuro   หมายถึง  ระบบประสาทหรือระบบสมอง เทคโนโลยีเอ็นแอลพี ถือว่า มนุษย์รับรู้สิ่งต่าง ๆ ผ่านตา  หู  จมูก   ลิ้นและสัมผัส  แล้วแปลความหมายจากเหตุการณ์สู่กระบวนการคิด
โดยจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทหรือสมองทำงาน ก่อให้เกิดการแสดงอารมณ์และพฤติกรรม
                L =   Linguistic  หมายถึง วิธีการที่มนุษย์ใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการตอบสนองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น    ใช้ภาษาไปแปลความ  แล้วสื่อไปยังตนเองและผู้อื่น   ศาสตร์เอ็นแอลพีพบว่า ถ้อยคำที่คิดและพูดมีผลต่อพฤติกรรมโดยตรง
                P = Programming หมายถึง  กระบวนการปลูกฝัง วิธีตคิด วิธีการใช้ภาษา เพื่อสร้างรูปแบบการคิดใหม่ ที่ทรงพลัง 
                เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ คำนิยามสั้น ๆ ของเทคโนโลยี เอ็นแอลพี คือ
1.ศิลปะและศาสตร์ในการติดต่อสื่อสารแบบหวังผลเลิศ
2.กุญแจสู่การเรียนรู้ที่รงพลัง
3.เคล็ดลับสู่เป้าหมายสำหรับทุก ๆ สิ่งที่ต้องการในชีวิต
4.คู่มือสำหรับพัฒนาระบบการคิด  ระบบประสาทและสมอง
5.เคล็ดลับสู่ความสำเร็จชั่วข้ามคืน
6.เทคโนโลยีผ่าตัดด้านลบและสร้างตัวตนใหม่
แนวคิดหลัก   เอ็นแอลพี    เชื่อว่าปัญหาอันเนื่องมาจากสภาพอารมณ์ของคนเกิดจากการทำงานของระบบประสาทและจิตใจที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย เกิดจากการลงโปรกรม  หรือการปลูกฝัง หรือสั่งสมประสบการณ์ผ่านจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ แล้วถูกนำไปแปลความบนพื้นฐาน  ความเชื่อที่ผิด ๆ แล้วถูกจัดเก็บเป็นระบบความจำที่ไร้ระเบียบ
เอ็นแอลพี     คือ กระบวนการใช้ภาษาเป็นสื่อคิด  แล้วส่งข้อมูลไปยังสมอง  และสมองจะสั่งให้ร่างกายทำงานตามนั้น
< การควบคุมสมองให้ทำงานอย่างมีเป้าหมาย  ทำโดย
             1.การใช้สมองจินตนาการ  ความฝันหรือการจินตนาการถึงเป้าหมายสำคัญของชีวิต เป็นกระบวนการที่สมองวาดแผนที่ความสำเร็จที่ทรงพลังที่สุด หากมีจินตนาการโดยเห็นภาพเด่นชัดและทำบ่อย ๆ สมองจะรับรู้ถึงเป้าหมายและจะหาทางทำให้เป็นจริงได้
              2. การฝึกฟังเสียงในจิตใจ      หากฝึกฟังเสียงในจิตใจจนชำนาญ   จะทำให้เป็นคนยืดหยุ่น  มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
                3. การฝึกประสาทรับรู้ให้ตื่นตัว
< การเปลี่ยนความเชื่อ
                คนเราทุกคนมีความเหมือนกันในเรื่องเนื้อที่สมองและอวัยวะที่ทำหน้าที่เหมือนกัน สิ่งที่ทำให้เราต่างกัน  ได้แก่ โปรแกรมหรือ ซอฟแวร์ ที่บรรจุเข้าไปในตัว  โปรแกรมที่ว่า คือ ความเชื่อ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดความคิด  ความรู้สึก  และการกระทำ  วิธีการเปลี่ยนความเชื่อทำได้โดย การเปลี่ยนโปรแกรมสำหรับสมองและจิตใจใหม่ ด้วยการลงมือทำ  
              การเปลี่ยนแปลงความเชื่อ มีขั้นตอนดังนี้
1.กำหนดเป้าหมายใหม่ต้องเป็นเป้าหมายที่แท้จริง
2.ลงมือทำเดี๋ยวนี้
3.หากลยุทธ์เฉพาะตัว
วิธีเพาะชำความเชื่อใหม่
1.สร้างพื้นที่ว่างภายในใจอย่างเป็นกลาง เป็นวิธีถามคำถามกับตนเองในเรื่องต่าง ๆ และ
จะพบว่าความเชื่อต่อมุมมองในเรื่องต่าง ๆที่คุ้นเคยจะเปลี่ยนไป
2.รำลึกถึงความเชื่อเก่า ๆ  ครั้งหนึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่
3.ค้นหาสิ่งที่สงสัย
4.เข้าไปพิพิธภัณฑ์แห่งความเชื่อ  อะไรคือความเชื่อเก่า ๆ ที่สามารถขจัดอย่างง่ายดาย  
อะไรที่จะไม่มีวันเชื่ออีกต่อไป อะไรที่เคยเชื่อและตอนนี้รู้ว่าเป็นเรื่องไร้เหตุผล
5.ค้นหาความเชื่อใหม่
5.เปิดรับความเชื่อใหม่
6.กำหนดพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์   จัดพื้นที่ว่างในจินตนาการแล้วกำหนดเป้าหมายหลักให้เห็น
เด่นชัด
ในการเปลี่ยนแปลงความเชื่อให้สำเร็จ ต้องสร้างสภาวะอารมณ์ให้ตื่นตัวสุดขีด  (Peak State of  Mind and Body ) โดยปลุกประสาทให้ร่างกายตื่นตัวก่อนเป็นอันดับแรก ให้ร่างกายตื่น สดใส มีชีวิตชีวาตลอดเวลา   มากเท่าไรยิ่งดี  
วิธีเปลี่ยนอารมณ์เบื่อ เซ็ง  ไร้พลัง
1. การเคลื่อนที่ทางร่างกาย (Physical Movement)   วิธีง่าย ๆ คือ  ให้ยืนตัวตรง หายใจลึก ๆ  3 นาที  ยิ้มกว้างที่สุด  เดินให้เร็วกว่าปกติ  2 เท่า   ไม่ก้มหน้า  หัวเราะดัง ๆ  โดยไม่ต้องรู้สึกขำ
2. การเปลี่ยนจุดสนใจอย่างสิ้นเชิง  ( Mental Focus )  ทำโดยค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่แท้จริงที่ตั้งไว้
< สร้างแบบพฤติกรรมใหม่         
       รูปแบบพฤติกรรมสร้างความเป็นเลิศ
1.พูดถึงเป้าหมายเสมอ
2.ระบุสิ่งที่สามารถทำได้เดี๋ยวนี้
3.ระบุ วัน เวลา สถานที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบรรลุเป้าหมายให้ชัด
4.สร้างการรับรู้ด้วยถ้อยคำ
5.ซอยแผนการออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วทำทีละชิ้นเป็นเรื่อง ๆ  ไป
                6.พกพาความฝันติดตัวตลอดเวลา
                7.หาตัววัดความสำเร็จ
                8. สร้างอารมณ์ดึงดูดใจตนเองให้นั่งไม่ติด
                9. ตรวจสอบสภาพแวดล้อม  ให้สำรวจ เป้าหมายหลักว่าสอดคล้องกับเป้าหมายอื่น ๆ หรือสอดคล้องกับคุณค่าหลักของชีวิตหรือไม่  หากไม่สอดคล้องอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนทั้งเป้าหมายและคุณค่าของชีวิต
                การสร้างที่ยึดเหนี่ยวเพื่อสับไกเรียกสภาวะสุดยอด 
              การที่จิตใจของคนเราเป็นรูปแบบใดเกิดจากการเรียกข้อมูล ที่สมองบันทึกไว้ผ่านระบบการคิดและประเมินผลอย่างรวดเร็ว เรียกว่าเป็นการสับไกเรียกสภาวะอารมณ์อย่างรวดเร็วจนแทบไม่รู้ตัว  เป็นการสร้างอารมณ์ที่ก่อให้เกิดพลังไร้ขีดจำกัดในการบรรลุเป้าหมาย    การสร้างหลักยึดเหนี่ยว อาจจะเป็นเรื่องราว  ถ้อยคำ เสียงหรือภาพที่จะกระตุ้นให้เรารู้สึกกระตือรือร้นตลอดเวลา หลักยึดเหนี่ยวนี้จะจัดการอารมณ์ของเรามิให้ออกนอกเส้นทาง ทำให้เราสามารถดึงศักยภาพออกมาใช้ได้ตลอดเวลาไม่มีวันหมด
                วิธีสร้างสภาวะสับไกเรียกพลังแห่งความสำเร็จ
1.ระบุพฤติกรรม หรือสถานการณ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้นซ้ำ
2.ค้นหาบุคคล  สถานที่ หรือสิ่งของที่จะเชื่อมโยงความคิด
3.เลียนแบบจากคนอื่น
4.เพิ่มตัวกระตุ้น
5.ทดสอบตัวสับไก
< เทคนิคการถอดแบบเพื่อความสำเร็จ (Modeling)
                1. การทำ Rapport    หมายถึงการสร้างมิตรภาพ  หรือสร้างความรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน  ต่างจากความไว้วางใจ เนื่องจาก  Rapport   สามารถทำได้ในทันที  ขณะที่ความไว้วางใจอาจต้องใช้เวลานานพอสมควร
                2. การทำ Matching  คือ การทำตัวให้สอดคล้องทั้งท่วงท่าและจังหวะทำนองให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน เหมือนการจับคู่เต้นรำ
< พิชิตชัยชนะด้วยภาษากาย  ( Body Language)
                ภาษากาย คือ การแสดงท่าทาง หรือปฏิกิริยาทางร่างกายเกิดจากสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด  พันธุกรรม   การเรียนรู้  และวัฒนธรรม  การสื่อความหมายบางอย่างจึงเป็นเรื่องที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน
การอ่านอารมณ์คนอื่นจากคำพูดอย่างเดียวไม่เพียงพอ  ต้องมีความสามารถอ่านภาษากายเขาให้ขาด และโต้ตอบกลับไปด้วยท่วงท่าที่เหมาะสม
                การพิชิตชัยชนะด้วยภาษากาย  มีวิธีการ ดังนี้
1.การปรากฏตัว  ด้วยความรู้สึก  คำพูด  ท่าทาง  อารมณ์และการแสดงออกที่ดี
2.เสื้อผ้าและเครื่องประดับเป็นทียอมรับแก่คนทั่วไป
3.ยืนตัวตรง
4.สบตาและยิ้มอยู่เสมอ
5.จับมือเมื่อพร้อม
6.ใช้โทนเสียงที่กระตือรือร้น
< สะกดจิตตนเองเพื่อความเป็นเลิศ   ( Self  Hypnosis )    
                วิธีที่จะเปลี่ยนแปลงแบบแผนเพื่อสร้างแผนที่ชีวิตใหม่ เพื่อให้เป้าหมายทุกอย่างบรรลุผล     สมอง  จิตใจ และการกระทำจะต้องประสานสอดคล้องกัน วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความเป้นหนึ่งเดียวกันนี้สามารถทำได้ด้วยวิธีสะกดจิต
                ขั้นตอนการสะกดจิตเพื่อปลูกฝังความเชื่อใหม่
1.ทำตนให้คุ้นเคยกับการฝันกลางวัน
2.ขั้นตอนการเตรียมเพื่อสะกดจิตตนเอง
1.1 หาสถานที่สงบ นั่งบนเก้าอี้ในท่าสบาย ๆ ปล่อยตัวให้ผ่อนคลายที่สุด
1.2หลับตาและผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย แต่บอกตนเองให้มีความตื่นตัวว่า
พร้อมแล้วสำหรับการจะสะกดจิตเพื่อพัฒนาตนเอง
1.3เมื่อผ่อนคลายเต็มที่แล้ว ให้จินตนาการถึงความมั่นคง  ปลอดภัย สงบสุขและสะดวกสบายจากสถานที่ที่กำลังนั่งอยู่  นิยมใช้วิธีนับ 1 ถึง 10
3.ออกคำสั่งตนเองในระหว่างการสะกดจิตเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ต้องการ
4.ฝึกสะกดจิตทุกวัน
< การเปลี่ยนแปลงตัวเองชั่วข้ามคืน (Overnight Transformation)
                สูตรเร่งรัดความสำเร็จ 10 ประการ
1.ทุก ๆ วันให้คาดหวังสิ่งดี    กำลังเกิดขึ้น
2.เริ่มต้นแต่ละวันด้วยการหว่านเพาะเล็ดพันธุ์แห่งความคิดแง่บวก
3.มุ่งไปข้างหน้า  อย่าเหลียวหลัง อย่าคิดถึงเรื่องในอดีต
4.จงฝันกลางวัน
5.กล้าที่จะกำหนดเป้าหมายที่สูงส่ง
6.ปลูกฝังความเชื่อใหม่ลงในจิตใจ
7.เรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง แล้วจงก้าวต่อไป
8.ดื่มด่ำกับแสงอาทิตย์อัสดง
9.เปิดรับทุก ๆ โอกาสที่เข้ามาในชีวิต
10.อยู่กับความฝันทุก ๆ วัน
< การลงโปรแกรมภาษาในจิตใจ (Language  Programming ) 
                สมองจะนำภาษาที่ใช้คิด หรือถ้อยคำที่พูดไปแปลความ  จัดหมวดหมู่บันทึก แล้วส่งข้อมูลต่อไปเก็บไว้ในจิตใต้สำนึก ภาษาจึงเป็นตัวบงการชีวิต  นักจิตวิทยาเชื่อว่าภาษาที่ใช้จะเป็นตัวหล่อหลอมพฤติกรรมและส่งผลลัพธ์อื่น ๆ  ภาษาจึงเปรียบเหมือนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เก็บอยู่ในระบบประสาท ทำหน้าที่สั่งให้ร่างกายและจิตใจทำงาน
                วิธีใช้ภาษาสร้างพลังแห่งความสำเร็จ ซึ่งผู้เขียนประมวลจาก จอห์น กรินเดอร์  มีดังนี้
                1.หากมีเหตุการณ์ไม่สบอารมณ์ให้เปลี่ยนสภาวะอารมณ์ที่ใช้ตอบสนองโดยใช้ภาษาตรงข้าม เช่น หากใครทำให้โกรธ ให้คิดว่า ขำดี ,  ตลกจัง  , แปลกดี หรือ นาน ๆ เจอแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน
                2. อย่าคิดหรือพูดถ้อยคำเชิงทำลาย   เช่น แย่จัง    บ้าชัด ๆ โชคร้าย  มีกรรม ให้พูดว่าโชคดีกำลังจะมา  น่าสนใจดี   ไม่มีอะไรยาก
                3. คัดเลือกชุดถ้อยคำประจำตัว  การปลูกฝังภาษาลงในสมองให้สามารถสร้างผลงานสุดยอดทุก ๆ วินาที ต้องมีภาษาสับไกเรียกสภาวะทางอารมณ์ที่ทรงพลัง  เช่น ลองเปล่งเสียงตะโกน
ดังๆ ให้สุด ๆ  พร้อมกำหมัดแน่น ๆ เกร็งแขนชูขึ้นสูง ๆ ทำติดต่อกัน 5 ครั้ง  ว่า  มันต้องให้ผลซิ, หมู ๆ   เมื่อทำแล้วทำให้รู้สึกตื่นตัวและกระตือรือร้น กระตุ้นอารมณ์ให้สดชื่น จะสามารถปลูกฝังความเชื่อมั่นได้
                คำถามสำคัญที่จะสร้างชีวิตที่เหลือเชื่อให้ประสบความสำเร็จชั่วข้ามคืน ได้แก่
 เราเป็นใคร   (Who Am I ? )  , อะไรคือเป้าหมายสูงสุดในชีวิตเรา (What” s really my Goal?)
และ   จริงหรือไม่? ใช่หรือไม่ ? ” เมื่อถามคำถามสำคัญแล้วต้อง เชื่อมั่นในตนเอง   ลงมือทำเดี๋ยวนี้
ขจัดความกลัวและความสงสัย    ประเมินผลทุกวัน  รู้จักยืดหยุ่น และจงมีชีวิตที่เต็มด้วยพลังอย่างเหลือล้นในทุก ๆ วัน
-----------------------------------
อ้างอิง
สามารถศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม/หนังสือ/อ้างอิง
N L P  ภาษา  สมอง  มหัศจรรย์  เทคโนโลยีสร้างความสำเร็จชั่วข้ามคืน
โดย  วิศิษฐ์   ศรีพิบูลย์   :ผู้เขียน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น