กลเม็ดไม่ขาดหวานแต่ไม่เพิ่มน้ำตาล
หลายคนพยายามลดหุ่นแทบแย่ แต่สุดท้ายแผนไดเอ็ตกลับพังไม่เป็นท่าและเมื่อผอมลงแล้วก็เริ่มตายใจจึงกลับไปกินของหวานเหมือนเคย แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักให้ได้ผลจริงๆ ละก็ คุณต้องตัดใจจากความหวานในเรื่องอาหารการกินสักหน่อยนะ แต่สาวๆ เราก็รู้กันอยู่ว่าการตัดใจจากน้ำตาลบางทีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ดังนั้น ลองมาดูวิธีที่จะช่วยควบคุมความอยากของหวานให้ลดลงไปได้บ้าง จำไว้ว่าหวานได้ แต่อย่าเยอะ
ก่อนกินของหวาน ดื่มน้ำก่อนสักแก้วเพื่อช่วยจำกัดปริมาณน้ำตาลและเป็นการควบคุมไม่ให้คุณอยากกินหวานมากขึ้น
กินผลไม้แทน น้ำตาลธรรมชาติในผลไม้มีประโยชน์ต่อร่างกายนะ ซึ่งน้ำตาลจากผลไม้จะช่วยทดแทนความอยากน้ำตาลของคุณได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์
บางคนเลือกกินไอศกรีมปลอดน้ำตาล หรือแบบ Low Sugar แต่อย่าลืมว่าความอยากน้ำตาลของคุณก็จะยังคงอยู่และอาจเพิ่มขึ้น วิธีที่ได้ผลกว่าคือการกินไอศกรีมทั่วไปแต่ลดปริมาณเหลือแค่เล็กน้อยก็พอ
กำหนดเวลาออกกำลังกาย ให้มีช่วงเวลาที่แน่นอนและออกกำลังอย่างเสมอจะช่วยควบคุมปฏิกิริยาเคมีในสมองให้ลดความอยากของหวานลงและยังช่วยให้อารมณ์ดีด้วย
เลือกของหวานที่ทำจากผลไม้แทนที่จะหยิบขนมที่เน้นครีมชีสหรือช็อกโก-แลตอย่างเคย ก็เปลี่ยนเป็นพายหรือทาร์ตผลไม้แทน ซึ่งถือเป็นการเลือกของหวานเพื่อสุขภาพอย่างชาญฉลาดแถมคุณยังจะได้รับวิตามินและคุณค่าต่างๆ จากผลไม้อีกด้วยนะ
ใบหญ้าหวานหรือ Stevia พืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่ดูคล้ายกับใบกะเพรา ใบของมันมีความหวานมากกว่าน้ำตาลเสียอีก แต่ไม่สามารถใช้แทนน้ำตาลได้ซะทีเดียวในการทำเบเกอรี่แต่สามารถใช้ใบหญ้าหวานในการปรุงอาหารคาวได้
ไอศกรีมแท่งรสผลไม้ต่างๆ คุณควรกินไอศกรีมเชอร์เบ็ตในยามที่คุณอยากของหวานแทนลูกอมทั้งหลาย เพราะมันมีรสหอมหวานแถมเย็นชื่นใจ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจและไม่รู้สึกอยากกินของหวานๆอีกเมื่อกินหมดแท่งไปแล้ว
อย่าอดอาหาร การอดอาหารมื้อประจำไปจะยิ่งกระตุ้นความอยากน้ำตาลมากขึ้น
สารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาลก็ช่วยได้เหมือนกัน แต่ก็ต้องระวังเพราะบางคนอาจมีอาการแพ้สารให้ความหวานนี้ได้
งดเติมน้ำตาล หรือเติมให้น้อยลงกว่าปกติเมื่อถึงเวลาจิบชา กาแฟ รวมถึงเวลาปรุงก๋วยเตี๋ยวด้วยนะ
อย่าลืมว่าในบรรดาอาหารเหล่านี้อย่างเช่น น้ำผลไม้ ขนมปัง โยเกิร์ตแต่งรสอาหารสำเร็จรูปแช่แข็ง อาหารกระป๋อง และโซดาเป็นต้น ซึ่งบางอย่างอาจจะดูเหมือนรักษาสุขภาพแต่ก็อาจแฝงด้วยการใช้น้ำตาลแต่งรสชาติ จึงต้องระวังอย่ากินมากเกินไป
ขอขอบคุณนิตยสาร .Lisa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น