สุขภาพดีได้ด้วยน้ำมันมะพร้าวกลั้วกลอกในปาก(oil pulling)
ออยล์พูลลิ่ง
เป็นวิธีบำบัดของอินเดียที่มีมาเป็นเวลาช้านานแล้ว
โดยการอมน้ำมันไว้และเคลื่อนน้ำมันไปให้ทั่วช่องปาก ใช้เวลาประมาณ 15-20
นาที จากนั้นจึงบ้วนทิ้งไป ออยล์
พูลลิ่งเป็นที่ฮือฮาเมื่อ Dr. F..,
ได้เสนอรายงานต่อที่ประชุมสัมนาบัณฑิตย์ทางด้านวิทยาศาสตร์ในประเทศรัสเซีย
เมื่อปี 2534-2535 การประชุมมีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องมะเร็ง และแบคทีเรียซึ่ง
D
ผลลัพธ์
ของการบำบัดด้วยวิธีนี้ ทำให้ผู้คนตะลึง ประหลาดใจ
เต็มไปด้วยความสงสัยในรายงานของเขาเป็นอันมาก อย่างไรก็ตาม
หลังจากที่ได้มีการอธิบาย ซักถามกันถึงการรักษา มีการทดสอบ ทดลองใช้
ทดลองทำ พิสูจน์หาความสมเหตุสมผลที่เกิดขึ้น
ต่างก็ยิ่งประหลาดใจถึงผลที่ได้รับจากการรักษาอย่างสมบูรณ์
อีกทั้งยังไม่มีอันตรายใดๆด้วย เป็นการรักษาทางด้านชีววิทยาโดยแท้
ด้วยวิธีการง่ายๆ ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาโรคได้มากมายหลายชนิด
ต่อมานายราว ซึ่งเป็นนายทหารที่เกษียณอายุแล้ว อาศัยอยู่ในเมืองบังกาลอร์
ประเทศอินเดีย ได้รับแผ่นพับเกี่ยวกับการรักษาแบบธรรมชาติบำบัด
นายราวและภรรยาของเขา จึงได้เริ่มปฏิบัติการ ใช้น้ำมันพืชกลั้วกลอกปาก
จนสามารถรักษาอาการจามเพราะแพ้อากาศ โรคหวัดที่เป็นในตอนเช้า และเวลากลางคืนมาเป็นเวลา 40 ปี โรคหืด นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว โรคภูมิแพ้ที่เกิดจากอาหาร ปัญหาการย่อยอาหาร ส่วนภรรยาที่ขณะนั้นอายุ 56 ปี ก็หายจากโรคปวดศรีษะไมเกรนที่เป็นมา 30 ปี โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง
และโรคเล็ก ๆ น้อย ๆ อื่น ๆ อีกมากมาย
ทั้งคู่เคยหมดหวังที่จะรักษาโรคเหล่านั้น เพราะการรักษาสารพัด
ก็เป็นเพียงแต่ช่วยให้ทุเลาขึ้นเป็นครั้งคราว
แต่เมื่อได้ใช้น้ำมันพืชกลั้วกลอกในปาก อาการต่าง
ๆก็หายไปในเวลาเพียงปีกว่า ๆ โดยไม่ได้ใช้ยาแต่อย่างใด
ด้วยความรู้สึกประทับใจในพลังการรักษาโรคของ
วิธีกลั้วกลอกน้ำมันพืชในปาก
นายราวจึงเริ่มบอกคนอื่นถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับตัวเขาและภรรยา จากนั้น
ก็เริ่มส่งเสริมการใช้น้ำมันพืชกลั้วกลอกปากเพื่อให้สุขภาพดีขึ้น
เขาเริ่มมีความรู้สึกว่า สมควรที่จะแนะนำให้คนอื่น ๆ ได้รู้ถึงวิธีดังกล่าว
เขาเริ่มแจกแผ่นพับและโชคดีที่หนังสือพิมพ์รายวันฉบับหนึ่งได้รับแผ่นพับ
นี้ ทำให้บางคนในกองบรรณาธิการทดลองใช้ และได้ผล
จึงได้ตีพิมพ์เรื่องราวของการกลั้วกลอกฯ
ต่อมานายราวได้เขียนบทความเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการกลั้วกลอกน้ำมันพืช
และได้บรรยายในที่ต่าง ๆ
ได้เล่าถึงประสบการณ์การใช้น้ำมันพืชกลั้วกลอกในปากเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพ
นานัปการที่รักษาไม่ได้ด้วยการใช้การแพทย์แผนปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม
การไม่มีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการกลั้วกลอกน้ำมันในปาก
ก็ไม่ได้หมายความว่า วิธีการนี้ไม่มีประสิทธิภาพ
เพราะมันเป็นวิธีที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง และได้รับการพิสูจน์โดยการใช้จริงๆ
มาเป็นเวลากว่า 2000 ปี โดยไม่มีใครตาย หรือป่วยไข้จากการกระทำดังกล่าว
เพราะผู้ปฏิบัติไม่ได้กลืนน้ำมันเข้าไปในท้อง การกลั้วกลอกน้ำมันในปาก
จึงเป็นวิธีที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย
และปฏิบัติได้ง่ายที่สุดในบรรดาการรักษาทั้งหลายที่มีอยู่
แต่กลับเป็นวิธีที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ดร.ไฟฟ์ ผู้อำนวยการวิจัย
ศูนย์วิจัยมะพร้าวที่เมืองโคโลราโดสปริงส์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นนักโภชนาการ และแพทย์ธรรมชาติบำบัดที่มีชื่อเสียง
อีกทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันมะพร้าวระดับโลก
ท่านก็เป็นผู้หนึ่ง ที่มีความสงสัยในรายงานการใช้น้ำมันพืชกลั้วกลอกปาก
ท่านได้เริ่มศึกษาถึงวิธีการของ ดร.การาจ อย่างจริงจัง
และท่านได้เรียบเรียงเป็นหนังสือ ชื่อ oil pulling therapy สิ่งสำคัญอันหนึ่งที่ท่านได้ปรับปรุงก็คือ การเปลี่ยนจากน้ำมันดอกทานตะวันไปเป็นน้ำมันมะพร้าว ซึ่งให้ผลดีกว่าน้ำมันดอกทานตะวัน ได้แก่ไม่เกิดอนุมูลอิสระ และเคลื่อนที่ได้เร็ว นอกจากนั้น น้ำมันมะพร้าวยังมีคุณสมบัติต่อต้านการอักเสบ และมะเร็ง ช่วย
เพิ่มภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย
และยังช่วยปรับสมดุลระดับฮอร์โมน แต่ที่นับว่าเด่นที่สุดก็คือ
การมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค โดยไม่เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ และไม่เกิดการดื้อยา
Dr.
Bruce Fife N.D. นักโภชนาการผู้มีชื่อเสียง
ซึ่งเขียนหนังสือไว้หลายเล่มรวมทั้ง Coconut Oil Miracle
เป็นอีกผู้หนึ่งที่มีความสงสัยในรายงานดังกล่าว
จึงได้ทดลองทำออยล์พูลลิ่งด้วยตนเอง ผลลัพธ์ที่ได้ Dr. Fife
ถึงกับออกปากว่า ออยล์พูลลิ่งเป็นการรักษาของแพทย์ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพที่สุด
แต่สิ่งที่ Dr. Fife สงสัยคือ เหตุใดการอมน้ำมันจึงช่วยรักษาโรคได้
เขาเริ่มศึกษาการทำออยล์พูลลิ่งของ Dr. Karach
อย่างจริงจังรวมทั้งศึกษารายงานอีกเป็นร้อยๆชิ้น
ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปที่เป็นคำตอบทางวิทยาศาสตร์ซึ่ง Dr. Fife
เขียนไว้ในหนังสือชื่อ Oil Pulling Therapy มีใจความบางตอนดังนี้
ในปากของ
เราเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และโปรโตซัว
แต่ส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรีย เพราะปากเป็นแหล่งอาศัยที่เหมาะสม มีความร้อน
ความชื้น และอุนหภูมิคงที่
ยังมีอาหารอุดมสมบูรณ์จากเศษอาหารที่เรารับประทาน
กล่าวกันว่าปริมาณแบคทีเรียในปากของคนคนหนึ่ง
มีมากกว่าจำนวนประชาการของคนทั้งโลก แบคทีเรียบางชนิดอาศัยอยู่บนผิวฟัน
บางชนิดอยู่ในช่องว่างระหว่างฟันและเหงือก บางชนิดอยู่ที่เพดานปาก
และบางชนิดอยู่ที่ใต้ลิ้นและโคนลิ้น
การแปรงฟันและการใช้น้ำยาบ้วนปากช่วยลดปริมาณแบคทีเรียเหล่านี้ลงได้แค่
เพียงชั่วคราวเท่านั้น
ซึ่งไม่นานก็จะกลับมาแพร่พันธุ์เพิ่มจำนวนขึ้นเช่นเดิม
- โรคร้ายทุกชนิดเริ่มต้นที่ปาก
อาจฟังดู
เหลือเชื่อ แต่หากไม่นับโรคทางพันธุกรรม โรคทางอารมณ์
หรือโรคจากการบาดเจ็บต่างๆ โรคร้ายเกือบทุกชนิด
รวมทั้งการเจ็บป่วยเรื้อรังต่างๆล้วนเริ่มต้นที่ปาก
เนื่องจากปากเป็นประตูเข้าสู่ร่างกาย
การรับประทานอาหารไม่ถูกต้องหรืออาหารที่มีพิษ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ยิ่งกว่านั้นในปากและลำใส้ยังเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียนับพันล้านตัว
บางชนิดเป็นอันตราย บางชนิดไม่ และบางชนิดเป็นประโยชน์
ถ้าแบคทีเรียเหล่านี้สามารถเข้าสู่กระแสเลือด
แม้แต่แบคทีเรียชนิดที่ไม่เป็นอันตรายก็สามารถทำให้เราถึงแก่ความตายได้
หากในปากของเรามีแผล หรือมีการอักเสบของเหงือกหรือเนื้อเยื่อ
จะทำให้แบคทีเรียสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยง่าย
เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลายชนิดตั้งแต่โรคไขข้ออักเสบไปจนถึงโรคหัวใจ
- ออยล์พูลลิ่งทำงานอย่างไร?
ออยล์พู
ลลิ่งเป็นการบำบัดที่ทำได้ง่ายที่สุดแต่ก็มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาการ
รักษาทางธรรมชาติด้วยเช่นกัน สำหรับหลายๆคนมีความรู้สึกว่า
แค่การอมและเคลื่อนน้ำมันไปทั่วๆปาก ไม่น่าจะช่วยรักษาโรคได้
อันที่จริงออยล์พูลลิ่งไม่ได้รักษาโรค
แต่มันช่วยขจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคหรือเป็นตัวการปล่อยสารพิษให้
หมดไป เพื่อให้ร่างกายมีโอกาสได้ฟื้นฟู
ออยล์พู
ลลิ่งเป็นกระบวนการทางชีววิทยาล้วนๆ
แบคทีเรียในช่องปากที่ก่อให้เกิดโรคร้ายหรือปล่อยสารพิษแก่ร่างกายนั้น
แต่ละเซลล์ของมันจะปกคลุมด้วยน้ำมันหรือเนื้อเยื่อที่เป็นไขมันซึ่งเป็น
เรื่องธรรมดาของผิวเซลล์
(เซลล์ของคนเราก็ล้อมรอบด้วยส่วนผสมของไขมันเช่นเดียวกัน)
เมื่อคุณเทน้ำมันลงในน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
น้ำกับน้ำมันจะแยกกันอยู่ไม่ยอมผสมรวมกัน
แต่ถ้าคุณเทน้ำมันสองชนิดเข้าด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
น้ำมันทั้งสองจะผสมรวมและดึงดูดซึ่งกันและกัน นี่คือความลับของออยล์พูลลิ่ง
เมื่อคุณ
ใส่น้ำมันลงในปาก
เนื้อเยื่อที่เป็นน้ำมันหรือไขมันของแบคทีเรียจะถูกน้ำมันดูดไว้
ขณะคุณเคลื่อนน้ำมันไปทั่วช่องปาก
แบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยแยกของเหงือกและฟันหรือตามซอกของฟัน
จะถูกดูดออกจากที่ซ่อนและติดแน่นอยูในส่วนผสมของน้ำมัน ยิ่งนานยิ่งมาก
หลังจากผ่านไป 20 นาที ส่วนผสมของน้ำมันจะเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไวรัส ฯลฯ
คุณจึงควรบ้วนทิ้งไปมากกว่าที่จะกลืนมัน
เศษอาหาร
ที่ติดอยู่ตามซอกฟันซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียจะถูกดูดออกด้วยเช่นกัน
สิ่งที่ไม่ใช่น้ำมัน (water based) จะถูกดูดออกด้วยน้ำลาย
น้ำลายยังช่วยลดกรดที่เกิดจากแบคทีเรีย
เมื่อ
แบคทีเรียรวมทั้งพิษร้ายที่เกิดจากแบคทีเรียถูกดูดออกไป
จึงเป็นโอกาสดีที่ร่างกายได้ทำการฟื้นฟู การอักเสบทั้งหลายหมดไป
กระแสเลือดเป็นปกติ เนื้อเยื่อที่เสียหายได้รับการซ่อมแซม
การมีสุขภาพดีจึงกลับมาในที่สุด
- น้ำมันชนิดใดเหมาะจะใช้ทำออยล์พูลลิ่ง?
ตาม
ตำราโบราณของอินเดียแนะนำให้ใช้น้ำมันดอกทานตะวันหรือน้ำมันงา
เนื่องจากเป็นน้ำมันที่หาได้ทั่วไปในอินเดียขณะนั้น Dr. Fife กล่าวว่า
น้ำมันชนิดใดก็สามารถใช้ทำออยล์พูลลิ่งได้
แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบน้ำมันมะพร้าว
เนื่องจากต้องการใช้น้ำมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
น้ำมันมะพร้าวเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันงา
หรือน้ำมันพืชชนิดใดๆ
(กรดลอริคในน้ำมันมะพร้าวเมื่อถูกกับเอนไซม์ในน้ำลายจะแตกตัวเป็นโมโนกลีเซ
อไรด์ชื่อว่า โมโนลอริน ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค) เหตุผลอีกประการหนึ่ง
ชอบที่น้ำมันมะพร้าวมีรสชาตินุ่มนวล
น้ำมันบริสุทธิ์ชนิดอื่นๆเช่นน้ำมันมะกอกและน้ำมันงามีกลิ่นรสรุนแรง
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์บีบเย็นที่ได้รับการผลิตอย่างมีคุณภาพจะ
มีความสะอาดถูกอนามัย แถมยังมีกลิ่นและรสชาติน่าพอใจอีกด้วย
ในปากของ
เราเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และโปรโตซัว
แต่ส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรีย เพราะปากเป็นแหล่งอาศัยที่เหมาะสม มีความร้อน
ความชื้น และอุนหภูมิคงที่
ยังมีอาหารอุดมสมบูรณ์จากเศษอาหารที่เรารับประทาน
กล่าวกันว่าปริมาณแบคทีเรียในปากของคนคนหนึ่ง
มีมากกว่าจำนวนประชาการของคนทั้งโลก แบคทีเรียบางชนิดอาศัยอยู่บนผิวฟัน
บางชนิดอยู่ในช่องว่างระหว่างฟันและเหงือก บางชนิดอยู่ที่เพดานปาก
และบางชนิดอยู่ที่ใต้ลิ้นและโคนลิ้น
การแปรงฟันและการใช้น้ำยาบ้วนปากช่วยลดปริมาณแบคทีเรียเหล่านี้ลงได้แค่
เพียงชั่วคราวเท่านั้น
ซึ่งไม่นานก็จะกลับมาแพร่พันธุ์เพิ่มจำนวนขึ้นเช่นเดิม
- โรคร้ายทุกชนิดเริ่มต้นที่ปาก
อาจฟังดู
เหลือเชื่อ แต่หากไม่นับโรคทางพันธุกรรม โรคทางอารมณ์
หรือโรคจากการบาดเจ็บต่างๆ โรคร้ายเกือบทุกชนิด
รวมทั้งการเจ็บป่วยเรื้อรังต่างๆล้วนเริ่มต้นที่ปาก
เนื่องจากปากเป็นประตูเข้าสู่ร่างกาย
การรับประทานอาหารไม่ถูกต้องหรืออาหารที่มีพิษ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ยิ่งกว่านั้นในปากและลำใส้ยังเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียนับพันล้านตัว
บางชนิดเป็นอันตราย บางชนิดไม่ และบางชนิดเป็นประโยชน์
ถ้าแบคทีเรียเหล่านี้สามารถเข้าสู่กระแสเลือด
แม้แต่แบคทีเรียชนิดที่ไม่เป็นอันตรายก็สามารถทำให้เราถึงแก่ความตายได้
หากในปากของเรามีแผล หรือมีการอักเสบของเหงือกหรือเนื้อเยื่อ
จะทำให้แบคทีเรียสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยง่าย
เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลายชนิดตั้งแต่โรคไขข้ออักเสบไปจนถึงโรคหัวใจ
- ออยล์พูลลิ่งทำงานอย่างไร?
ออยล์พู
ลลิ่งเป็นการบำบัดที่ทำได้ง่ายที่สุดแต่ก็มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาการ
รักษาทางธรรมชาติด้วยเช่นกัน สำหรับหลายๆคนมีความรู้สึกว่า
แค่การอมและเคลื่อนน้ำมันไปทั่วๆปาก ไม่น่าจะช่วยรักษาโรคได้
อันที่จริงออยล์พูลลิ่งไม่ได้รักษาโรค
แต่มันช่วยขจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคหรือเป็นตัวการปล่อยสารพิษให้
หมดไป เพื่อให้ร่างกายมีโอกาสได้ฟื้นฟู
ออยล์พู
ลลิ่งเป็นกระบวนการทางชีววิทยาล้วนๆ
แบคทีเรียในช่องปากที่ก่อให้เกิดโรคร้ายหรือปล่อยสารพิษแก่ร่างกายนั้น
แต่ละเซลล์ของมันจะปกคลุมด้วยน้ำมันหรือเนื้อเยื่อที่เป็นไขมันซึ่งเป็น
เรื่องธรรมดาของผิวเซลล์
(เซลล์ของคนเราก็ล้อมรอบด้วยส่วนผสมของไขมันเช่นเดียวกัน)
เมื่อคุณเทน้ำมันลงในน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
น้ำกับน้ำมันจะแยกกันอยู่ไม่ยอมผสมรวมกัน
แต่ถ้าคุณเทน้ำมันสองชนิดเข้าด้วยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
น้ำมันทั้งสองจะผสมรวมและดึงดูดซึ่งกันและกัน นี่คือความลับของออยล์พูลลิ่ง
เมื่อคุณ
ใส่น้ำมันลงในปาก
เนื้อเยื่อที่เป็นน้ำมันหรือไขมันของแบคทีเรียจะถูกน้ำมันดูดไว้
ขณะคุณเคลื่อนน้ำมันไปทั่วช่องปาก
แบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยแยกของเหงือกและฟันหรือตามซอกของฟัน
จะถูกดูดออกจากที่ซ่อนและติดแน่นอยูในส่วนผสมของน้ำมัน ยิ่งนานยิ่งมาก
หลังจากผ่านไป 20 นาที ส่วนผสมของน้ำมันจะเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไวรัส ฯลฯ
คุณจึงควรบ้วนทิ้งไปมากกว่าที่จะกลืนมัน
เศษอาหาร
ที่ติดอยู่ตามซอกฟันซึ่งเป็นอาหารของแบคทีเรียจะถูกดูดออกด้วยเช่นกัน
สิ่งที่ไม่ใช่น้ำมัน (water based) จะถูกดูดออกด้วยน้ำลาย
น้ำลายยังช่วยลดกรดที่เกิดจากแบคทีเรีย
เมื่อ
แบคทีเรียรวมทั้งพิษร้ายที่เกิดจากแบคทีเรียถูกดูดออกไป
จึงเป็นโอกาสดีที่ร่างกายได้ทำการฟื้นฟู การอักเสบทั้งหลายหมดไป
กระแสเลือดเป็นปกติ เนื้อเยื่อที่เสียหายได้รับการซ่อมแซม
การมีสุขภาพดีจึงกลับมาในที่สุด
- น้ำมันชนิดใดเหมาะจะใช้ทำออยล์พูลลิ่ง?
ตาม
ตำราโบราณของอินเดียแนะนำให้ใช้น้ำมันดอกทานตะวันหรือน้ำมันงา
เนื่องจากเป็นน้ำมันที่หาได้ทั่วไปในอินเดียขณะนั้น Dr. Fife กล่าวว่า
น้ำมันชนิดใดก็สามารถใช้ทำออยล์พูลลิ่งได้
แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบน้ำมันมะพร้าว
เนื่องจากต้องการใช้น้ำมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
น้ำมันมะพร้าวเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันงา
หรือน้ำมันพืชชนิดใดๆ
(กรดลอริคในน้ำมันมะพร้าวเมื่อถูกกับเอนไซม์ในน้ำลายจะแตกตัวเป็นโมโนกลีเซ
อไรด์ชื่อว่า โมโนลอริน ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค) เหตุผลอีกประการหนึ่ง
ชอบที่น้ำมันมะพร้าวมีรสชาตินุ่มนวล
น้ำมันบริสุทธิ์ชนิดอื่นๆเช่นน้ำมันมะกอกและน้ำมันงามีกลิ่นรสรุนแรง
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์บีบเย็นที่ได้รับการผลิตอย่างมีคุณภาพจะ
มีความสะอาดถูกอนามัย แถมยังมีกลิ่นและรสชาติน่าพอใจอีกด้วย
วิธีกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก
หลังตื่นนอน ขณะที่ช่วงท้องว่าง และก่อนรับประทานอาหารเช้า เอาน้ำมันมะพร้าว
2 ช้อนชา ใส่เข้าปาก อย่าใส่มากกว่านั้น
เพราะจะไม่มีที่ว่างในช่องปากให้น้ำลายออกมาช่วยทำหน้าที่ ในขั้นตอนนี้
น้ำมันจะผสมกลมกลืนกับน้ำลาย ๆ
จะช่วยกระตุ้นให้เอนไซม์ดึงสารพิษออกมาจากกระแสเลือด
อย่ากลืนลงคอ แต่ถ้าเผลอกลืนลงไป
ก็ไม่มีอันตรายร้ายแรงใด ๆ
เพียงแต่ท่านอาจจะกลืนสารพิษเข้าไปในท้องบ้างเล็กน้อย ส่วนพวกเชื้อโรคนั้น
ได้ถูกฆ่าตายหมดแล้วด้วยน้ำมันมะพร้าว และทั้งเชื้อโรคที่ตายแล้ว และสารพิษ ก็จะถูกร่างกายขับออกมาทางอุจจาระเอง
จากนั้น จึงกลั้วกลอกน้ำมันในปาก โดยค่อย ๆ
จิบน้ำมันเข้าปาก ดูด ดึง ดัน(หรือ กลั้ว กลอก กลิ้ง ก็ได้)
น้ำมันให้ผ่านไปมาให้ทั่วปาก โดยใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที
เมื่อเราเคลื่อนไหวน้ำมันอยู่ในปากซักพัก จะรู้สึกว่าน้ำมันมะพร้าวนั้น
เบาบางลง ไม่หนืด มีลักษณะคล้ายน้ำ สีขาวขุ่น มีฟองอากาศปะปนอยู่
แต่ถ้ายังมีสีขาวใสอยู่เหมือนเดิม แสดงว่าใส่น้ำมันมากไป
หรือยังใช้เวลาไม่นานพอ หรือท่านไม่ได้กลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปากของท่าน เพียงแต่อมไว้เฉย ๆ ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด
ขั้นต่อไป ให้บ้วนน้ำมันมะพร้าวที่อมอยู่ในปากออกทิ้ง ซึ่งเป็นตอนสำคัญอันหนึ่ง มีข้อแนะนำคือ
- บ้วนลงในกระโถน หรือกระป๋อง แล้วนำไปเททิ้ง
(อาจใจกระป๋องที่บรรจุผลไม้ที่ใช้หมดแล้ว รองกระป๋องด้วยถุงพลาสติก
เพื่อจะได้ไม่ต้องล้างกระป๋อง แล้วเวลาเทลงถังขยะ ก็ไม่เลอะเทอะ
โดยใช้ยางรัดปากถุงก่อนทิ้งลงถังขยะ)
- อย่าบ้วนลงอ่างล้างหน้า หรืออ่่างล้างชาม
เพราะน้ำมันที่บ้วนทิ้งลงไปนั้น มีแบคทีเรีย สารพิษ
และของเสียที่ดึงออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นสารอินทรีย์
และอาจทำให้ท่อน้ำทิ้งตันได้
- อย่าไปเทลงกระถางปลูกต้นไม้ หรือที่ที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่ เพราะอาจทำให้ต้นไม้ตายได้
- แล้วแปรงฟัน ให้น้ำล้างปาก หรือจะให้ดี ก็ใช้นิ้วมือช่วยทำความสะอาดฟันและเหงือกด้วยก็ได้
การทำการกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก
จึงควรทำเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แบคทีเรียในช่องปากมีปริมาณมากที่สุด
แต่ถ้าจะเร่งการบำบัดให้เร็วขึ้น ก็ให้ทำการกลั้วกลอกวันละ 3 เวลา
ก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น และตอนท้องว่าง อย่างไรก็ตาม การกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ก็ไม่ได้ "โรยด้วยกลีบกุหลาบ" หรือมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นเสมอไป แต่อาจมีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นบ้าง ดังต่อไปนี้
วิธีกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก
หลังตื่นนอน ขณะที่ช่วงท้องว่าง และก่อนรับประทานอาหารเช้า เอาน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนชา ใส่เข้าปาก อย่าใส่มากกว่านั้น เพราะจะไม่มีที่ว่างในช่องปากให้น้ำลายออกมาช่วยทำหน้าที่ ในขั้นตอนนี้ น้ำมันจะผสมกลมกลืนกับน้ำลาย ๆ จะช่วยกระตุ้นให้เอนไซม์ดึงสารพิษออกมาจากกระแสเลือด
อย่ากลืนลงคอ แต่ถ้าเผลอกลืนลงไป ก็ไม่มีอันตรายร้ายแรงใด ๆ เพียงแต่ท่านอาจจะกลืนสารพิษเข้าไปในท้องบ้างเล็กน้อย ส่วนพวกเชื้อโรคนั้น ได้ถูกฆ่าตายหมดแล้วด้วยน้ำมันมะพร้าว และทั้งเชื้อโรคที่ตายแล้ว และสารพิษ ก็จะถูกร่างกายขับออกมาทางอุจจาระเอง
จากนั้น จึงกลั้วกลอกน้ำมันในปาก โดยค่อย ๆ จิบน้ำมันเข้าปาก ดูด ดึง ดัน(หรือ กลั้ว กลอก กลิ้ง ก็ได้) น้ำมันให้ผ่านไปมาให้ทั่วปาก โดยใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที
เมื่อเราเคลื่อนไหวน้ำมันอยู่ในปากซักพัก จะรู้สึกว่าน้ำมันมะพร้าวนั้น เบาบางลง ไม่หนืด มีลักษณะคล้ายน้ำ สีขาวขุ่น มีฟองอากาศปะปนอยู่ แต่ถ้ายังมีสีขาวใสอยู่เหมือนเดิม แสดงว่าใส่น้ำมันมากไป หรือยังใช้เวลาไม่นานพอ หรือท่านไม่ได้กลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปากของท่าน เพียงแต่อมไว้เฉย ๆ ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด
ขั้นต่อไป ให้บ้วนน้ำมันมะพร้าวที่อมอยู่ในปากออกทิ้ง ซึ่งเป็นตอนสำคัญอันหนึ่ง มีข้อแนะนำคือ
- บ้วนลงในกระโถน หรือกระป๋อง แล้วนำไปเททิ้ง (อาจใจกระป๋องที่บรรจุผลไม้ที่ใช้หมดแล้ว รองกระป๋องด้วยถุงพลาสติก เพื่อจะได้ไม่ต้องล้างกระป๋อง แล้วเวลาเทลงถังขยะ ก็ไม่เลอะเทอะ โดยใช้ยางรัดปากถุงก่อนทิ้งลงถังขยะ)
- อย่าบ้วนลงอ่างล้างหน้า หรืออ่่างล้างชาม เพราะน้ำมันที่บ้วนทิ้งลงไปนั้น มีแบคทีเรีย สารพิษ และของเสียที่ดึงออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ และอาจทำให้ท่อน้ำทิ้งตันได้
- อย่าไปเทลงกระถางปลูกต้นไม้ หรือที่ที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่ เพราะอาจทำให้ต้นไม้ตายได้
- แล้วแปรงฟัน ให้น้ำล้างปาก หรือจะให้ดี ก็ใช้นิ้วมือช่วยทำความสะอาดฟันและเหงือกด้วยก็ได้
การทำการกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก จึงควรทำเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แบคทีเรียในช่องปากมีปริมาณมากที่สุด แต่ถ้าจะเร่งการบำบัดให้เร็วขึ้น ก็ให้ทำการกลั้วกลอกวันละ 3 เวลา ก่อนอาหารเช้า กลางวัน เย็น และตอนท้องว่าง อย่างไรก็ตาม การกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ก็ไม่ได้ "โรยด้วยกลีบกุหลาบ" หรือมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นเสมอไป แต่อาจมีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นบ้าง ดังต่อไปนี้
1. ภาวะวิกฤตที่เกิดจากการรักษาโรค เมื่อท่่านได้ทำการกลั้วกลอกปากของท่านด้วยน้ำมันมะพร้าว ท่าน
ได้โจมตีแหล่งอาศัยของเชื้อโรค ทำให้มันลดจำนวนลงไปเป็นอย่างมาก
ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของท่านทำงานน้อยลง
ทำให้มันมีโอกาสในการทำหน้าที่ได้ดีขึ้น เช่น ในการขับสารพิษ
และสิ่งแปลกปลอมออกนอกร่างกาย แม้กระทั่งในการใช้ครั้งแรก
แต่มันจะเห็นผลได้ในระยะ 2 - 3 สัปดาห์ เพราะในระยะแรกนั้น มีจำนวนเชื้อโรค
และสารพิษสะสมอยู่ในปาก ในลำคอ
และในไซนัส(ช่องในกระโหลกศรีษะที่ต่อกับช่องจมูก) มากมาย
ที่แรกมันอาจทำให้ท่านคลื่นไส้ หรือสะอิดสะเอียน ท่านอาจจะต้องบ้วนน้ำมันมะพร้าวทิ้ง
ไป หลังจากอมได้เพียงสองสามนาที เพราะเบื่อบุช่องปาก
ถูกทำให้ลอกออกไปในลำคอ ที่ไปกระตุ้นทำให้เกิดอาการสำลัก
นั่นเป็นเรื่องธรรมดา ท่านจึงควรทำความสะอาดหลอดคอของท่าน และเทน้ำมันมะพร้าวเข้าไปในปากอีกครั้ง คราวนี้กลั้วกลอกให้ได้นาน 15 นาที
การกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก
อาจยังคงดึงเยื่อบุปากออกมาจากลำคอและไซนัสต่อไปตลอดทั้งวัน
ท่านอาจจะรู้สึกคล้ายเป็นหวัด และอาจจะเจ็บคอ อย่าตกใจ!
ท่านไม่ได้ป่วยหรอก แต่ร่างกายของท่าน
กำลังทำความสะอาดโดยกระบวนการกลั้วกลอก
เมื่อร่างกายของท่านกำลังขับสารพิษออกจากร่างกาย
ท่านอาจพบกับกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นจากการทำความสะอาด เช่น มีน้ำใส ๆ
ไหลออกมาจากทางจมูก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ผิวแตก เจ็บ ปวด ปวดหัว
เป็นไข้ เหนื่อยอ่อน หากท่่านมีปัญหาทางสุขภาพอยู่ก่อน เช่น ปวดข้อ เป็นโรคสะเก็ดเงิน นอนไม่หลับ
ฯลฯ เหล่านี้ อาการจะรุนแรงขึ้นระยะหนึ่งปฏิกิริยาทำความสะอาด
มักจะเกิดขึ้นเพียง 2 - 3 วัน หรือไม่เกิน 2 - 3 สัปดาห์
จงปล่อยให้ร่างกายของท่านทำหน้าที่ทำความสะอาดต่อไปโดยไม่ถูกขัดขวาง
จงกลอกกลั้วปากด้วยน้ำมันมะพร้าวต่อไป และไม่กินยาใด ๆ เพื่อรักษาอาการเหล่านั้น แต่ถ้าเป็นสมุนไพร หรือวิตามิน
ก็ไม่เป็นไร เพราะมันไม่ไปรบกวนกระบวนการทำความสะอาด แต่ถ้าเป็นยาสมัยใหม่
ซึ่งเป็นสารเคมีสังเคราะห์มันแปลกปลอมต่อร่างกาย
และไปก่อภาระต่อระบบภูมิคุ้มกัน ที่จะขับถ่ายสารเหล่านี้ออก ซึ่งบางครั้ง
ก็อาจทำให้กระบวนการรักษาช้าลง หรือหยุดไปเลย
เมื่อเกิดปฏิกิริยาทำความสะอาดขึ้น เราเรียกมันว่า สภาวะวิกฤตที่เกิดจากการรักษาโรค
เพราะอาการที่เกิดขึ้นทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยสบาย
แต่มันเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์เพราะมันเป็นสัญญาณที่บอกว่า
ร่างกายของท่านกำลังรักษาตัวของมันเอง โดยไม่ต้องพึ่งยาใด ๆ
อย่างไรก็ตาม
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องผ่านประสบการณ์ร้ายนี้
บางคนเพียงแต่มีน้ำมูกไหลเพียงเล็กน้อย แล้วก็หายไปในที่สุด
2. การหลุดไปของฟันที่อุดไว้ มีบางคนรายงานว่า การกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ทำให้ฟันที่อุดไว้หลุดออกมา แน่นอน การกลั้วกลอก หรือ ดูด ดึง ดัน น้ำมันมะพร้าวใน
ปากของท่าน อาจทำให้วัสดุอุดฟันของท่านหลุดออกมาได้
ก็แสดงว่าวัสดุที่หมดฟันอุดให้ท่าน ไม่ได้มาตราฐาน และการอุดฟันนั้น
ไม่ได้ป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเข้าไปอาศัยในซอกและใต้ฟันที่อุดไว้ไม่ดี
ซึ่งต่อไป ก็จะเกิดฟันผุ เหงือกเป็นหนอง จนวัสดุอุดฟันของท่าน
รวมทั้งฟันซี่นั้นของท่าน หลุดออกมา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะสีฟังเป็นประจำ ใช้ยาบ้วนปาก
หรือแม้แต่ยาปฏิชีวนะ
แต่เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนประเภทของจุลินทรีย์ในปากของเรา อย่างมากที่ทำได้
ก็คือทำลายพวกมันลงบ้าง แต่ก็เพียงชั่วครั้งชั่วคราว
แล้วในที่สุดพวกมันก็กลับมาอาศัยในปากของเราดังเดิม
ผลของการกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ที่เห็นได้ชัดเจนคือ สุขภาพในช่องปากดีขึ้น ฟันขาวขึ้น แน่นขึ้น ไม่โยกคลอน เหงือกเป็นสีชมพู และดูมีสุขภาพ ลมหายใจสดชื่น นอกจากนี้ การกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ยังช่วยเยียวยาความเจ็บไข้ หรืออาการป่วยเรื้อรังได้อีกหลายชนิด ดังนี้ สิว ภูมิแพ้ รังแค ไซนัส ปวดหัวไมเกรน น้ำมูกมาก หืด หลอดลมอักเสบ ผิวหนังอักเสบ เรื้อนกวาง ปวดหลังปวดคอ ข้ออักเสบ กลิ่นปาก ฟันผุ ฟันเป็นหนอง เลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก ท้องผูก แผลในกระเพาะ ลำไส้ ลำไส้อักเสบ ริดสีดวงทวาร นอนไม่หลับ อ่อนเพลียเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน
ส่วนอาการหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในช่องปาก และอาจมีผลตอบสนองกับการกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ได้แก่ ปัสสาวะเป็นกรด ปอดอักเสบ ถุงลมโป่งพอง การอุดตันของเส้นเลือด ฝีในสมอง มะเร็ง เก๊าท์ โรคของถุงน้ำดี โรคหัวใจ น้ำตาลในเลือดสูง แท้งบุตร โรคของไต โรคของตับ ความผิดปกติของระบบประสาท แก้สารพิษ กระดูกพรุน ปอดบวม ทารกคลอดก่อนกำหนดหรือน้ำหนักตัวน้อย และโรคติดเชื้ออื่น ๆ อีกหลายชนิด
การกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก อาจยังคงดึงเยื่อบุปากออกมาจากลำคอและไซนัสต่อไปตลอดทั้งวัน ท่านอาจจะรู้สึกคล้ายเป็นหวัด และอาจจะเจ็บคอ อย่าตกใจ! ท่านไม่ได้ป่วยหรอก แต่ร่างกายของท่าน กำลังทำความสะอาดโดยกระบวนการกลั้วกลอก เมื่อร่างกายของท่านกำลังขับสารพิษออกจากร่างกาย ท่านอาจพบกับกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นจากการทำความสะอาด เช่น มีน้ำใส ๆ ไหลออกมาจากทางจมูก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ผิวแตก เจ็บ ปวด ปวดหัว เป็นไข้ เหนื่อยอ่อน หากท่่านมีปัญหาทางสุขภาพอยู่ก่อน เช่น ปวดข้อ เป็นโรคสะเก็ดเงิน นอนไม่หลับ ฯลฯ เหล่านี้ อาการจะรุนแรงขึ้นระยะหนึ่งปฏิกิริยาทำความสะอาด มักจะเกิดขึ้นเพียง 2 - 3 วัน หรือไม่เกิน 2 - 3 สัปดาห์ จงปล่อยให้ร่างกายของท่านทำหน้าที่ทำความสะอาดต่อไปโดยไม่ถูกขัดขวาง จงกลอกกลั้วปากด้วยน้ำมันมะพร้าวต่อไป และไม่กินยาใด ๆ เพื่อรักษาอาการเหล่านั้น แต่ถ้าเป็นสมุนไพร หรือวิตามิน ก็ไม่เป็นไร เพราะมันไม่ไปรบกวนกระบวนการทำความสะอาด แต่ถ้าเป็นยาสมัยใหม่ ซึ่งเป็นสารเคมีสังเคราะห์มันแปลกปลอมต่อร่างกาย และไปก่อภาระต่อระบบภูมิคุ้มกัน ที่จะขับถ่ายสารเหล่านี้ออก ซึ่งบางครั้ง ก็อาจทำให้กระบวนการรักษาช้าลง หรือหยุดไปเลย
เมื่อเกิดปฏิกิริยาทำความสะอาดขึ้น เราเรียกมันว่า สภาวะวิกฤตที่เกิดจากการรักษาโรค เพราะอาการที่เกิดขึ้นทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่มันเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์เพราะมันเป็นสัญญาณที่บอกว่า ร่างกายของท่านกำลังรักษาตัวของมันเอง โดยไม่ต้องพึ่งยาใด ๆ
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องผ่านประสบการณ์ร้ายนี้ บางคนเพียงแต่มีน้ำมูกไหลเพียงเล็กน้อย แล้วก็หายไปในที่สุด
2. การหลุดไปของฟันที่อุดไว้ มีบางคนรายงานว่า การกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ทำให้ฟันที่อุดไว้หลุดออกมา แน่นอน การกลั้วกลอก หรือ ดูด ดึง ดัน น้ำมันมะพร้าวใน ปากของท่าน อาจทำให้วัสดุอุดฟันของท่านหลุดออกมาได้ ก็แสดงว่าวัสดุที่หมดฟันอุดให้ท่าน ไม่ได้มาตราฐาน และการอุดฟันนั้น ไม่ได้ป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเข้าไปอาศัยในซอกและใต้ฟันที่อุดไว้ไม่ดี ซึ่งต่อไป ก็จะเกิดฟันผุ เหงือกเป็นหนอง จนวัสดุอุดฟันของท่าน รวมทั้งฟันซี่นั้นของท่าน หลุดออกมา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะสีฟังเป็นประจำ ใช้ยาบ้วนปาก หรือแม้แต่ยาปฏิชีวนะ แต่เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนประเภทของจุลินทรีย์ในปากของเรา อย่างมากที่ทำได้ ก็คือทำลายพวกมันลงบ้าง แต่ก็เพียงชั่วครั้งชั่วคราว แล้วในที่สุดพวกมันก็กลับมาอาศัยในปากของเราดังเดิม
ผลของการกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ที่เห็นได้ชัดเจนคือ สุขภาพในช่องปากดีขึ้น ฟันขาวขึ้น แน่นขึ้น ไม่โยกคลอน เหงือกเป็นสีชมพู และดูมีสุขภาพ ลมหายใจสดชื่น นอกจากนี้ การกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ยังช่วยเยียวยาความเจ็บไข้ หรืออาการป่วยเรื้อรังได้อีกหลายชนิด ดังนี้ สิว ภูมิแพ้ รังแค ไซนัส ปวดหัวไมเกรน น้ำมูกมาก หืด หลอดลมอักเสบ ผิวหนังอักเสบ เรื้อนกวาง ปวดหลังปวดคอ ข้ออักเสบ กลิ่นปาก ฟันผุ ฟันเป็นหนอง เลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก ท้องผูก แผลในกระเพาะ ลำไส้ ลำไส้อักเสบ ริดสีดวงทวาร นอนไม่หลับ อ่อนเพลียเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน
ส่วนอาการหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในช่องปาก และอาจมีผลตอบสนองกับการกลั้วกลอกน้ำมันมะพร้าวในปาก ได้แก่ ปัสสาวะเป็นกรด ปอดอักเสบ ถุงลมโป่งพอง การอุดตันของเส้นเลือด ฝีในสมอง มะเร็ง เก๊าท์ โรคของถุงน้ำดี โรคหัวใจ น้ำตาลในเลือดสูง แท้งบุตร โรคของไต โรคของตับ ความผิดปกติของระบบประสาท แก้สารพิษ กระดูกพรุน ปอดบวม ทารกคลอดก่อนกำหนดหรือน้ำหนักตัวน้อย และโรคติดเชื้ออื่น ๆ อีกหลายชนิด
โรคที่ได้รับรายงานว่าตอบสนองต่อการทำออยล์พูลลิ่ง
ผลของการทำออยล์พู
ลลิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ สุขภาพในช่องปากดีขึ้น ฟันขาวขึ้น
แน่นขึ้นไม่โยกคลอน เหงือกเป็นสีชมพูแลดูมีสุขภาพ ลมหายใจสดชื่น นอกจากนี้
ดูเหมือนว่าออยล์พูลลิ่งจะช่วยเยียวยาความเจ็บไข้หรืออาการป่วยเรื้อรังได้
อีกหลายชนิด
ต่อไปเป็นชื่อของโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่มีผู้รายงานเข้ามาว่ามีการตอบสนอง
ที่ดีกับออยล์พูลลิ่ง: สิว ภูมิแพ้ รังแค ไซนัส ปวดหัวไมเกรน น้ำมูกมาก หืด
หลอดลมอักเสบ ผิวหนังอักเสบ เรื้อนกวาง ปวดหลังปวดคอ ข้ออักเสบ กลิ่นปาก
ฟันผุ ฟันเป็นหนอง เลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก ท้องผูก แผลในกระเพาะ ลำไส้
ลำไส้อักเสบ ริดสีดวงทวาร นอนไม่หลับ อ่อนเพลียเรื้อรัง เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน
ส่วนอาการหรือโรคที่
การศึกษาทางการแพทย์พบว่าเกี่ยวข้องกับสุขภาพในช่องปากโดยตรงและอาจมีผลตอบ
สนองกับการทำออยล์พูลลิ่งได้แก่ ปัสสาวะเป็นกรด ปอดอักเสบ(ARDS)
ถุงลมโป่งพอง การอุดตันของเส้นเลือดและเส้นเลือดในสมอง ผลเลือดผิดปกติ
ฝีในสมอง มะเร็ง เกาท์ ถุงน้ำดี หัวใจ น้ำตาลในเลือดสูง แท้งบุตร ไต ตับ
ความผิดปกติของระบบประสาท กระดูกพรุน ปอดบวม
ทารกคลอดก่อนกำหนดน้ำหนักตัวน้อย แพ้สารพิษ และโรคติดเชื้ออื่นๆอีกหลายชนิด
- ช่วงเวลาที่เหมาะจะทำออยล์พูลลิ่ง
จากกราฟ
แสดงให้เห็นว่า ปริมาณของแบคทีเรียในช่องปากมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างวัน
การรับประทานทำให้แบคทีเรียบางส่วนผสมกับอาหารและน้ำลายในที่สุดถูกกลืนลงไป
ปริมาณแบคทีเรียมีมากสุดในตอนเช้าก่อนรับประทานอาหาร
การแปรงฟันช่วยลดปริมาณแบคทีเรียได้ไม่มากเนื่องจากฟันมีพื้นที่แค่ 10%
ของช่องปาก
ก่อนอาหารกลางวันปริมาณแบคทีเรียจะเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตอนก่อนอาหารเช้า
และลดลงมากที่สุดภายหลังรับประทานอาหารเย็น
เมื่อคุณหลับแบคทีเรียมีโอกาสกลับมาเพิ่มจำนวนขึ้นใหม่โดยไม่มีสิ่งใดมารบก
วน การทำออยล์พูลลิ่งจึงควรทำเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แบคทีเรียในช่องปากมีปริมาณมากที่สุด.
ขอบคุณ
ที่มา : เอกสารวิชาการฉบับที่ 1/2553
สุขภาพดีได้ด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าวกลั้วกลอกในปาก
โดย ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา
http://www.naturalmind.co.th
ผลของการทำออยล์พู
ลลิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ สุขภาพในช่องปากดีขึ้น ฟันขาวขึ้น
แน่นขึ้นไม่โยกคลอน เหงือกเป็นสีชมพูแลดูมีสุขภาพ ลมหายใจสดชื่น นอกจากนี้
ดูเหมือนว่าออยล์พูลลิ่งจะช่วยเยียวยาความเจ็บไข้หรืออาการป่วยเรื้อรังได้
อีกหลายชนิด
ต่อไปเป็นชื่อของโรคหรืออาการเจ็บป่วยที่มีผู้รายงานเข้ามาว่ามีการตอบสนอง
ที่ดีกับออยล์พูลลิ่ง: สิว ภูมิแพ้ รังแค ไซนัส ปวดหัวไมเกรน น้ำมูกมาก หืด
หลอดลมอักเสบ ผิวหนังอักเสบ เรื้อนกวาง ปวดหลังปวดคอ ข้ออักเสบ กลิ่นปาก
ฟันผุ ฟันเป็นหนอง เลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก ท้องผูก แผลในกระเพาะ ลำไส้
ลำไส้อักเสบ ริดสีดวงทวาร นอนไม่หลับ อ่อนเพลียเรื้อรัง เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน
ส่วนอาการหรือโรคที่
การศึกษาทางการแพทย์พบว่าเกี่ยวข้องกับสุขภาพในช่องปากโดยตรงและอาจมีผลตอบ
สนองกับการทำออยล์พูลลิ่งได้แก่ ปัสสาวะเป็นกรด ปอดอักเสบ(ARDS)
ถุงลมโป่งพอง การอุดตันของเส้นเลือดและเส้นเลือดในสมอง ผลเลือดผิดปกติ
ฝีในสมอง มะเร็ง เกาท์ ถุงน้ำดี หัวใจ น้ำตาลในเลือดสูง แท้งบุตร ไต ตับ
ความผิดปกติของระบบประสาท กระดูกพรุน ปอดบวม
ทารกคลอดก่อนกำหนดน้ำหนักตัวน้อย แพ้สารพิษ และโรคติดเชื้ออื่นๆอีกหลายชนิด
- ช่วงเวลาที่เหมาะจะทำออยล์พูลลิ่ง

จากกราฟ
แสดงให้เห็นว่า ปริมาณของแบคทีเรียในช่องปากมีการเปลี่ยนแปลงในระหว่างวัน
การรับประทานทำให้แบคทีเรียบางส่วนผสมกับอาหารและน้ำลายในที่สุดถูกกลืนลงไป
ปริมาณแบคทีเรียมีมากสุดในตอนเช้าก่อนรับประทานอาหาร
การแปรงฟันช่วยลดปริมาณแบคทีเรียได้ไม่มากเนื่องจากฟันมีพื้นที่แค่ 10%
ของช่องปาก
ก่อนอาหารกลางวันปริมาณแบคทีเรียจะเพิ่มสูงขึ้นเกือบเท่าตอนก่อนอาหารเช้า
และลดลงมากที่สุดภายหลังรับประทานอาหารเย็น
เมื่อคุณหลับแบคทีเรียมีโอกาสกลับมาเพิ่มจำนวนขึ้นใหม่โดยไม่มีสิ่งใดมารบก
วน การทำออยล์พูลลิ่งจึงควรทำเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แบคทีเรียในช่องปากมีปริมาณมากที่สุด.
ขอบคุณ
ที่มา : เอกสารวิชาการฉบับที่ 1/2553
สุขภาพดีได้ด้วยการใช้น้ำมันมะพร้าวกลั้วกลอกในปาก
โดย ดร.ณรงค์ โฉมเฉลา
http://www.naturalmind.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น