วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เทียนกิ่ง

เทียนกิ่ง

เทียนกิ่ง

ชื่ออื่น  เทียนขาว,เทียนไม้,(ภาคกลาง) โจยกะฮวยเฮี๊ยะ,ฮวงกุ่ย (จีน)Alcana, Cypress shrub, Egyptian Rrivet, Henna Tree, Inai, Kok khau, Krapin, Madayanti, Mehadi, Mignonotte tree, Mong Tay, Lali, Reseda, Sinamomo เป็นต้น[

เทียนกิ่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Lawsonia inermis L. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Lawsonia inermis L. var. alba Hassk, Lawsonia inermis L. var. miniata Hoss., Lawsonia alba) จัดอยู่ในวงศ์ LYTHRACEAE[

ลักษณะของเทียนกิ่ง ต้นเทียนกิ่ง เป็นพรรณไม้จากต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดและเขตการกระจายพันธุ์อยู่ทางตอนเหนือของแอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย (แหล่งปลูกต้นเทียนกิ่งที่สำคัญของโลกคือที่ ประเทศอินเดีย อียิปต์ และซูดาน) โดยจัดเป็นไม้พุ่มกึ่ง เป็นไม้พุ่มสูง 3-6 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ก้านอ่อนลักษณะสี่เหลี่ยม  ใบรูปไข่ยาวๆออกตรงข้ามกัน ก้วาง 1-1.5ซม.และยาวประมาณ 2-4.5 เซนติเมตร แผ่นใบเป็นสีเขียว เนื้อใบค่อนข้างหนาและแข็งก้านใบสั้น 


ดอกเทียนกิ่ง ออกดอกเป็นข่อติดกันเป็นกระจุกยาว โดยจะออกตามยอดกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก แบ่งเป็นสองสายพันธุ์คือ พันธุ์ดอกขาวและพันธุ์ดอกแดงดอกมีกลิ่นหอมแบบอ่อนๆ ช่อดอกยาวประมาณ 9-14 เซนติเมตร พันธุ์ดอกขาวดอกจะเป็นสีเหลืองอมสีเขียว กลีบดอกแยกเป็นกลีบ 4 กลีบ ปลายกลีบมน มีรอยย่นยับ กลีบดอกมีขนาดยาวประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ที่ฐานดอกที่มีกลีบเลี้ยงดอกเชื่อมติดกันยาวประมาณ 2-2.5 มิลลิเมตร ที่กลางดอกมีเกสรเพศผู้ 8 อันและเกสรเพศเมีย 1 อัน เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดกว้างประมาณ 8-10 มิลลิเมตร สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี ดอกร่วงได้ง่ายผลเทียนกิ่ง ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม คล้ายกับเมล็ดพริกไทย ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-7 มิลลิเมตร ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกหรือแก่เต็มที่แล้วจะเป็นสีน้ำตาลและแตกได้ ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลเข้มจำนวนมาก อัดกันแน่น ลักษณะของเมล็ดเป็นเหลี่ยม

ส่วนที่ใช้ 
ใบ ใช้สดหรือตากแห้ง เก็บใบปีล่ะ 2 ครั้ง ช่วงที่1 ระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม ช่วงที่ 2 เดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน

สรรพคุณ
ดอกใช้เป็นยารักษาดีซ่าน (ดอก)
รากใช้เป็นยารักษาโรคลมบ้าหมู (ราก)
ดอกมีสรรพคุณแก้อาการปวดศีรษะ (ดอก)
รากใช้เป็นยารักษาตาเจ็บ (ราก)
ใบใช้เป็นยาลดไข้ (ใบ)
ใบเทียนกิ่งสดหรือแห้งนำมาต้มเอาแต่น้ำใช้เป็นยาอมบ้วนปากและคอ จะช่วยแก้อาการเจ็บคอได้ (ใบ)
น้ำต้มใบทั้งสด หรือแห้ง หรือยอดอ่อน เมื่อนำมาดื่มจะช่วยแก้โรคท้องร่วง และแก้ท้องร่วงในเด็กได้เป็นอย่างดี (ใบ,ยอดอ่อน)ช่วยแก้อาการปวดท้อง (ใบ)
ใบใช้เป็นยาแก้บิด กระเพาะอาหารผิดปกติ (ใบ)
รากและใบใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (ราก,ใบ)
ราก ดอก และผลเทียนกิ่ง มีสรรพคุณเป็นยาขับประจำเดือนของสตรี (ราก,ดอก,ผล)
ช่วยรักษากามโรค (ใบ)
ใบสดมีรสฝาดเฝื่อน มีสรรพคุณช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย (ใบ)
เปลือกต้นมีสรรพคุณช่วยขับน้ำเหลืองเสียในโรคเรื้อน (เปลือกต้น)
ใบสดใช้ตำพอกช่วยห้ามเลือด แก้ห้อเลือด (ใบ)
ใช้ใบสดหรือใบแห้งนำมาต้มเอาแต่น้ำ ใช้น้ำล้างหรือทารักษาบาดแผล แผลสด แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แผลบวมฟกช้ำ แผลมีหนอง แผลอักเสบบวมเป็นหนอง ถอนพิษปวดแสบปวดร้อน (ใบ)
น้ำต้มใบสดหรือใบแห้ง ใช้น้ำล้างหรือทารักษาโรคผิวหนัง ผิวหนังอักเสบ รักษาฝีได้ (ใบ)
มีรายงานว่าใบเทียนกิ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและเชื้อหนองซึ่งเป็นสาเหตุของโรคกลาก (ใบ)
ตำรับยากันเล็บถอด แก้เล็บขบ เล็บช้ำ เล็บเป็นแผล เล็บเจ็บเป็นหนอง แก้อาการปวดนิ้วมือนิ้วเท้า ให้ใช้ใบสดของต้นเทียนกิ่งนำมาตำผสมกับขมิ้นอ้อยสดหรือเหง้าขมิ้นชัน และใส่เกลือพอประมาณ หรืออาจจะใช้ใบสดผสมกับเหล้าตำให้ละเอียดก็ได้ ส่วนอีกวิธีให้ใช้ใบสดประมาณ 20-30 ใบ ที่ล้างสะอาดแล้วนำมาตำให้ละเอียด เอาข้าวสุกปั้นเป็นก้อนขนาดเท่าหัวแม่มือ นำไปเผาไฟให้บางส่วนดำเป็นถ่านตำรวมใส่เกลือเล็กน้อยแล้วนำมาพอกเล็บบริเวณที่ เล็บก็จะหาย (ใบ)
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเทียนกิ่ง 
   จากการทดลองพบว่าในใบของต้นเทียนกิ่งมีสารเคมีแนพโทควิโนน (Naphthoquinone) ที่ชื่อว่า “ลอโซน” (Lawsone) (2-hydroxy-1,4-naphthoquinone) อยู่ประมาณ 0.5-0.9%, 1,4-naphthoquinone, แทนนิน (tannin) 5-10%, มีฟลาโวนอยด์ เช่น กลูโคไซด์ของอะพิเจนิน (Apigenin), ลูทีโอลิน (Luteolin) กรดฟีนอลิก (Phenolic acid), กรดไขมัน, และแซนโทน (xanthones) ได้แก่ แลคแซนโทน (laxanthone I, II) และยังมีรายงายองค์ประกอบทางเคมีเพิ่มเติม[6],[8] ได้แก่ เบนซีนอยด์ (benzenoids) ได้แก่ กรดแกลลิก (Gallic acid), ลาลอยไซด์ (Laloiside) คูมารินส์ (Coumarins) ได้แก่ เอสคูเลติน (Aesculetin), ฟราเซติน (Fraxetin), สโคโพเลติน (Scopoletin) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ได้แก่ ไซนาโรไซด์ (Cynaroside), ทิเลียนิน (Tilianin) โพลีไซคลิก (Polycyclics) ได้แก่ ลอโซเนียไซด์ (Lawsoniaside) สเตียรอยด์ (Steroids) ได้แก่ เบต้า-ซิโตสเตียรอล (β-sitosterol) สารสกัดจากใบเทียนกิ่งสดด้วยแอลกอฮอล์จะได้สารที่เรียกว่า Lawsone จะมีความเข้มข้นต่ำสุด 1,000 ppm. ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อราหรือเชื้อโรคได้หลายประเภท เช่น Brucella, Escherichia coli, Micrococcus pyogenes var. aureus, Salmonella, Staphylococcus, Streptococcus เป็นต้น แต่สารดังกล่าวจะไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ Candida albicans และเชื้อ Pseudomonas aerugingosa
สารสกัดจากใบเทียนกิ่งด้วยน้ำมีฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบตัว สารสกัดเอทานอล 95% มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ สาร Lawsone มีความปลอดภัยสูง มีรายงานว่าไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์และก่อมะเร็ง และได้มีการทดสอบความเป็นพิษของใบกับคน โดยให้รับประทานใบคนละ 30 กรัม ผลการทดลองไม่พบว่าเป็นพิษ แต่หากใช้ไปนานๆ จะมีอาการเบื่ออาหาร ลำไส้มีอาการเคลื่อนไหวมาก และเมื่อทดลองในสุนัขก็ไม่พบว่ามีอาการเป็นพิษ

หมายเหตุ 

    ใบ ในอินเดียใช้เป็นสีย้อม เช่นย้อมมือ เล็บ ฝ่าเท้า ผม คิ้ว หนวดเคราและยังใช้ย้อมขนหางและงแผงคอม้า ให้เป็นสีส้มแดง การย้อมใช้ใบบดเป็นผงผสมน้ำให้ข้นพอกส่วที่ต้องการ เช่นย้อมผม ใช้ใบบดผสมน้ำให้ข้นพอกผมเอาผ้าดพกไว้ค้างคืนแล้วล้างออก สารสกัดจากใบเป็นสีย้อม Keratin (โปรตีนในเล็บและผม) ได้อย่างถาวร ทำให้สีติดผมเล็บได้ทนนาน และไม่ระคายเครืองผิวหนัง 
 มีสตูรย้อมผมดังนี้ ผงใบเทียนกิ่ง 1 ส่วน ผงคราม(indigo) 2 ส่วน  จะได้ผมสีน้ำตาล
 ผงใบเทียนกิ่ง 1 ส่วน ผงคราม(indigo) 3 ส่วน  จะได้ผมสีน้ำตาลเข้ม นอกจากนี้ยังใช้สารสกัดเทียนกิ่งย้อมเส้นไหมและขนสตว์ โดยใช้ potassium dichromate,ferrous sulphate,stannous chloide หรือ alum เป็นตัวช่วยทำให้สีติดทน วิธีย้อมแช่กลุ่มด้ายไหมหรือขนสัตว์ในสารละลาย ferrous sulphate ที่เป็นกรดก่อนแล้วบีบให้หมาดแล้วย้อมด้วยสารสกัดจากใบเทียนกิ่งได้สีเทาแบบผงซีเมนต์เป็นต้น ถ้าแช่สารละลายอื่นเช่น Potassium dichromate.Stannous chloride or Alum ก็จะได้สีเข็มหรืออ่อนแตกต่างกนไป 
  ใบมี Lawsone สกัดมาผสมเป็นยาขี้ผึ้งทาผิวป้องกันแดดเผา หรือป้องกันผิวหนังระคายเคืองจากแสงเอ็กซเรย์ ในอินเดียใช้ใบแก้โรคผิวหนัง ฝี แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แผลบวม ฟกช้ำ และผิวหนังอักเสบต่างๆ ใบต้มน้ำอมบ้วนปากกลั้วคอแก้เจ็บคอ 
ยอดอ่อน หนึ่งกำมือต้มน้ำกินแก้ท้องเสียในเด็ก
ดอกแช่น้ำร้อนชงเอาน้ำทาแผลบวมฟกช้ำ และกินแก้ปวดประจำเดือน ดอกมีสารห้ามเลือดใข้ห้ามเลือบาดแผลสด
เมล็ดบดเป็นผงมีฤทธิ์กระตุ้นสมองส่วนหน้า ใช้แก้อาการซึมเซาผืดปกติในเด็กวัยรุ่น
รากใช้เป็นยาฝาดสมาน ใช้ตำพอกหรือคั้นเอาน้ำทา 
น้ำต้มจากเปลือกต้น ใช้แก้แผลไฟไห้มหรือน้ำร้อนลวก อาการผิดปกติต่างๆเช่น ดีซ่าน ม้ามโต นิ่ว ขับน้ำเหลืองเสียในโรคเรื้อนและโรคผิวหนังเรื้อรังหายยากต่างๆ


ขอบคุณขอมูลจาก
หนังสือ สมุนไพร โครงการศึกษาวิจัยสมุนไพร(มกราคม 2523 - กันยายน 2523)    




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น