วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เพาะข้าวสาลีงอก&น้ำคั้นต้นข้าวสาลีอ่อน

alt
วิธีการเพาะข้าวสาลี
1. นำเมล็ดข้าวสาลีแช่น้ำ 1 คืน  จากนั้นนำไปหว่านบนวัสดุเพาะในกระถางหรือตะกร้าที่สามารถ
ระบายน้ำได้  วัสดุเพาะต้องระบายน้ำได้ดี และไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี
2. รดน้ำบางๆแบบพ่นฝอย โดยอาจใช้กระบอกฉีดพ่น พอชื้น แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปิดไว้
3. วันรุ่งขึ้น เปิดกระดาษหนังสือพิมพ์ รดน้ำแบบวันแรกแล้วปิดกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ดังเดิม
ทำเช่นนี้ทุกวันจนเห็นใบอ่อนข้าวสาลีงอกออกมา จึงเอากระดาษหนังสือพิมพ์ออก
4. รดน้ำบางๆแบบพ่นฝอย ทุกวัน แต่อย่าให้ชื้นมากเพราะจะทำให้เกิดเชื้อราได้
5. เมื่อข้าวสาลีออกใบที่ 2 หรือสูงประมาณ 8 นิ้ว (ใช้เวลาประมาณ 10 วัน) สามารถตัดใบไป
ทำน้ำคั้นได้ โดยใช้กรรไกรสะอาดตัดเหนือดินประมาณ ½ นิ้ว
6. รดน้ำบางๆแบบพ่นฝอย ต่อทุกวัน อีกประมาณ 5-7 วัน สามารถตัดใบไปทำน้ำคั้นรุ่นที่ 2
ได้อีกครั้ง

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgdiFlRZdItRaMzpiflXpfJGVu2Fr02kWHiZ_9BVtvSEg63wnemHis2Cn_Y58rrF4-mYv75LnscVL3ssf2arEXLq0-ce_BqkBlQzL2FVdNlpdRBA-iUTB44K37HTLTfu1KqUuLO7reD3gOA/s320/J8163393-1.jpg

**ข้าวสาลีปลูกแต่ละรุ่น สามารถตัดใบไปทำน้ำคั้นได้ 2 รุ่น โดยใช้เมล็ดพันธุ์ 25 กรัม / คน / ครั้ง แต่สำหรับผู้ป่วยเพิ่มเมล็ดพันธุ์เป็น 50-100 กรัม / คน / ครั้ง **

กรรมวิธีการคั้นน้ำและปริมาณที่จะบริโภค
การคั้นน้ำไม่ควรใช้เครื่องปั่นไฟฟ้าเพราะความเร็วของใบมีดจะทำให้เกิดขบวน การออกซิเดชั่น ซึ่งจะลดความเป็นประโยชน์ของน้ำคั้นข้าวสาลี  ขณะนี้มีการนำเข้าเครื่องคั้นน้ำข้าวสาลี
ใบอ่อนข้าวสาลีที่ตัดแล้วสามารถเก็บในถุงพลาสติคในตู้เย็นได้ประมาณ 3 วัน แต่ถ้าคั้นน้ำแล้วควรรับประทานทันทีหรือไม่เกินครึ่งชั่วโมงหลังคั้นน้ำ
ปริมาณบริโภค  วันละ 1/4 - 1/3  แก้ว 1 ครั้ง ก่อนอาหาร สำหรับคนธรรมดา และ วันละ 1/4 - 1/2  แก้ว 2-3 ครั้ง ก่อนอาหาร สำหรับคนป่วย  ถ้าไม่ชอบกลิ่นอาจเติมน้ำมะนาวหรือน้ำผึ้งก็ได้
alt
ข้อควรระวัง อาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ถ้าบริโภคมากเกินไป และไม่แนะนำสำหรับสตรีมีครรภ์

คุณประโยชน์ของน้ำคั้นต้นข้าวสาลีอ่อน

จากรายงานของต่างประเทศ พบว่า น้ำคั้นต้นข้าวสาลีอ่อนอุดมด้วยเอ็นไซม์ วิตามิน และคลอโรฟิลล์ มีคุณค่าทางอาหารสูง ไม่มีอันตราย เพราะเป็นของธรรมชาติ   ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที   ต้นข้าวสาลีอ่อน 30 มิลลิลิตร มีคุณค่าเทียบเท่าผักสดทั่วไปน้ำหนัก 1 กิโลกรัม   น้ำคั้นต้นข้าวสาลีอ่อนมีคลอโรฟิลล์มากถึง 70% ซึ่งคลอโรฟิลล์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายฮีโมโกลบิน จึงมีออกซิเจนมาก ช่วยให้สมองและเนื้อเยื่อของร่างกายมีออกซิเจนเพียงพอ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น  มี superoxide dismutase (SOD) ซึ่งเป็นสารต้านมะเร็งสูง ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที   ทำให้ช่วยป้องกันและต่อต้านโรคมะเร็ง  ลดโคเลสเตอรอล ช่วยในเรื่องระบบการไหลเวียนของโลหิต  ระบบการย่อยอาหาร  ลดความดัน  รวมทั้งช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกาย ได้ด้วย
ส่วนประกอบที่พบในน้ำคั้นต้นข้าวสาลีอ่อน

น้ำคั้นต้นข้าวสาลีอ่อนมีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ไม่ต่ำกว่า 90 ชนิด ตั้งแต่ แคลเซียม แมกนีเซียม โปแตสเซียม เหล็กและโซเดียม  มีกรดอะมิโนไม่ต่ำกว่า 20 ชนิด และมีเอนไซม์ไม่ต่ำกว่า 30 ชนิด ดังนี้

วิตามิน :  วิตามินเอ  วิตามินบี  วิตามินซี  วิตามินอี และวิตามินเค
แมกนีเซียม :  ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน
กรดอะมิโน :  เป็นองค์ประกอบหลักของโปรตีน  ช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและสร้างเซลล์ใหม่ ในน้ำคั้นต้นข้าวสาลีอ่อนพบกรดอะมิโนมากมายดังนี้ Alanine, Arginine, Aspartic acid, Glutamic acid, Glycine, Histidine, Isoleucine, Leucine, Lysine, Phenylalanine, Proline, Serine, Threonine, Tyrosine และ Valine
เอนไซม์ :  เป็นองค์ประกอบหลักของขบวนการทำงานต่างๆของร่างกาย  ในน้ำคั้นต้นข้าวสาลีอ่อนพบเอนไซม์มากมายดังนี้ Superoxide dismutase,  Amylase,  Cytrochrome Oxidase, Lipase, Protease  และ Transhydrogenase

บทความโดย นางสุธีรา มูลศรี นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น