วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

โดปามีน สารควบคุมอารมณ์และความรู้สึก

 หากย้อนเวลากลับไปในช่วงคริศต์ศักราช 1923 จะพบว่า... โลกนี้ได้กำเนิดนักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่ง  ผู้ซึ่งมีบทบาาทสำคัญในการค้นพบ  "สารโดปามีน"  สารเคมีสำคัญในร่างกายที่มีบทบาทต่อการควบคุมอารมณ์และความรู้สึก !!

   Arvid Carlsson
 
        Arvid Carlsson  เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ.1923  ที่เมือง Uppsala ประเทศสวีเดน เขาเป็นผู้ผู้ค้นพบสาร
โดปามีนเมื่อช่วงทศวรรษ 1950  และยังพบว่าการให้สารตั้งต้นของโดปามีน คือ L-dopa สามารถรักษาอาการของ
โรคพาร์กินสันได้  จากผลงานนี้เองทำให้  Arvid Carlsson ได้รับรางวัลโนเบลในปี ค.ศ. 2000
 

โครงสร้างของโดพามีน
 โดปามีน (dopamine) เป็นสารเคมีที่พบตามธรรมชาติในร่างกายซึ่งสังเคราะห์โดยเนื้อเยื่อประสาทและต่อมหมวกไตเป็นส่วนใหญ่ ทำหน้าที้เป็นทั้งสารสื่อประสาทและฮอล์โมน นอกจากนี้ยังเป็นสารตั้งต้นของการสังเครา์ะห์ นอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine หรือ noradrenaline) และ เอพิเนฟริน (epinephrine หรือ adrenaline)
          โคปามีน (dopamine) ในสมองที่ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทจะกระตุ้นโดปามีนรีเซปเตอร์ (dopamine recetor) ในระบบประสาทซิมพาเทติค (sympathetic nervous system) ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ และความดันโลหิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้โคปามีนยังมีบทบาทเป็นฮอร์โมนที่หลั่งโดยไฮโพทาลามัส (hypothalamus) เพื่อยับยั้งการหลั่่งโปรแลคติน (prolactin) จากต่อมพิทุอิทารี่ส่วนหน้า (anterior lobe of the pituitary) แต่เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต (growth hormone)
          บทบาทของโดปามีน (dopamine) จะทำหน้าที่ในการควบคุมอารมณ์ การเรียบเรียงความนึกคิด การทำหน้าที่ของสมองในกาีรควบคุมการเคลื่อนไหว ซึ่งถ้ามีการเสียสมดุลระหว่างแอซิติลโคลีน (acetylcholine) กับ โดปามีน (dopamine) จะทำให้เป็นโรคพาร์กินสัน (Parkinson's disease) ที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุทั้งเพศชายและหญิง เนื่องจากการขาดสารโดปามีน (dopamine) ในสมองเพราะมีการเสื่อมและตายของเซลล์สมองในตำแหน่งที่สร้างสารโดปามีน
ภาพการสังเคราะห์สารสื่อประสาทกลุ่มแคททีโดลามีน (The catecholamines)
โดปามีนเป็นสารที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์พึงพอใจ ความปิติยินดี ความรักใคร่ชอบพอ จากการศึกษาทดลองในหนู พบว่าเมื่อทำให้หนูเกิดความพึงพอใจ ระดับของโดปามีนจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ  ซึ่งในขณะที่โดปามีนถูกหลั่งออกมาจากสมอง จะทำให้เกิดความสุข เรียกว่า reward circuit หากถูกกระตุ้นด้วยพฤติกรรมซ้ำ ๆ ก็จะหลั่งโดปามีนออกมาตามปกติ  แต่หากไม่ถูกกระตุ้นหรือทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่กิจกรรมเดิม สารโดปามีนก็จะหยุดทำงาน ทำให้รู้สึกหงุดหงิด โมโหหรือเซื่องซึมได้
 

 
         ด้วยเหตุนี้บางครั้งจึงมีการจัด โดปามีนเป็นสารเคมีแห่งรัก (Chemicals of love)  ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเลือกหรือจับคู่ ซึ่งมีผลงานวิจัยอ้างอิงจากมหาวิทยาลัยอีโมรี ได้ทำการทดลองโดยฉีดโดปามีนใส่หนูตัวเมียทึ่เอามาจากหนูตัวผู้ตัวหนึ่ง  ซึ่งปรากฏว่าหนูตัวเมียเลือกจับคู่กับหนูตัวผู้ที่เป็นเจ้าของโดปามีนนี้จากกลุ่มหนูทั้งหมดที่อยู่รวมกัน


 
        นอกจากนี้แล้วระดับโดปามีนส่วนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย  หากร่างกายมีปริมาณโดปามีนน้อยเกินไป จะทำให้เกิดเป็นโรคพาร์กินสัน  ซึ่งโรคทางประสาทที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ  โดยจะมีอากรสั่น เกร็ง และเคลื่อนไหวช้า
  
 

 
       โรคพาร์กินสันนั้นเกิดจากการเสื่อม และตายไปของเซลล์สมองที่สร้างสารโดปามีน จนไม่สามารถสร้างสารโดปามีนได้เพียงพอ สารโดปามีนนี้มีความสำคัญต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย การตายของเซลล์กลุ่มนี้เกิดขึ้นได้เป็นปกติในผู้สูงอายุ แต่ในผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน พบว่ามีเซลล์ตายมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด
 
 
       และในทางกลับกัน หากร่างกายมีสารโดปามีนในสมองมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมองส่วนฟรอนทัล ซึ่งสมองส่วนนี้ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด การเรียนรู้ ความจำ  ก็จะทำให้เกิดอาการป่วยทางจิต  ซึ่งผู้ป่วยโรคจิตเภทจะมีระดับโดปามีนในสมองมากกว่าคนปกติ
 

 
          ดังนั้นเมื่อโดปามีน  ส่งผลกระทบต่อการควบคุมอารมณ์ของเราเช่นนี้  เราจึงควรรรับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน เนื่องจากโดปามีน ผลิตได้จากกรดอะมิโนชนิดไทโรซีน เช่น รับประทานพวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ นม ไข่ ถั่วเหลือง  เพื่อส่งเสริมให้ร่างกายได้รับสารโดปามีนอย่างเหมาะสม  ไม่มาก หรือน้อยจนเกินไปค่ะ





         
 
 
 

ขอบคุณข้อมูลจาก  
-สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้
http://vcharkarn.com
- ศูนย์การเรียนรู้สุขศึกษาและพฤติกรรมสุขภาพ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต  (http://www.vachiraphuket.go.th)
-  สถาบันส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลโย (สสวท.)  (http://www.ipst.ac.th)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น