ดอกจำปา
ดอกจำปา หรือ Magnolia champaca
ซึ่งมีกำเนิดในถิ่นร้อนอย่างเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรานี่เอง
จึงเป็นไม้ไม่ผลัดใบ ลำต้นสูงได้ราว 20-30
เมตรเนื้อไม้สีเหลืองถึงน้ำตาลอ่อนสวยงามและเหนียวทนทาน
จึงนิยมใช้ในการก่อสร้างหรือทำเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ใบ
รูปไข่ปลายแหลม ใบอ่อนมีขนนุ่มปกคลุม
ดอกเมื่อบานสะพรั่งเต็มต้นจะส่งกลิ่นฟุ้งขจรไปไกล
กลีบดอกทรงแคบยาวสีเหลืองอมส้ม จึงมีชื่อฝรั่งว่า Golden Champaca หรือ
Orange Champaca ไทยเราเองก็เรียกสีเหลืองทองสุกปลั่งว่า “สีดอกจำปา”
ดังบทมโหรีสมัยกรุงศรีอยุธยาว่า “สีเนื้อเจ้าจำปาทอง ใต้ฟ้าเลียบจบ
ทั้งแผ่นพิภพไม่มีสอง เนื้อเจ้าจำปาทอง ใต้ฟ้าจะหายากเอยฯ”
การแพทย์แผนโบราณของไทยก็กล่าวถึงสรรพคุณอื่นๆ อีกเช่น ดอกใช้ลดความร้อนในเลือด ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงประสาท บำรุงธาตุ ขับปัสสาวะ ใบรักษาโรคเส้นประสาทและแก้ป่วง รากแห้งและเปลือกหุ้มรากใช้บ่มฝี เปลือกต้นแก้คอแห้ง แก่นแก้โรคเรื้อน ยางใช้รักษาโรคริดสีดวงได้ด้วย
การวิจัยทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ยังพบว่าสารสกัดจากใบ เมล็ด เปลือกและแก่นต้นจำปามีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราหลายชนิด ทั้งยังพบสาร parthenolide และ costunolide ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง นักวิจัยในประเทศอินเดียก็พบว่าสารสกัดจากดอกจำปามีสรรพคุณบรรเทาภาวะน้ำตาล ในเลือดต่ำ ซึ่งเกิดจากการรับประทานยาลดน้ำตาลในเลือดหรือการฉีดอินซูลินในปริมาณสูง เกินไป สอดคล้องกับตำราแพทย์แผนโบราณของอินเดียที่ใช้ดอกจำปารักษาอาการของโรคเบา หวานมานานแล้ว
ส่วนสรรพคุณด้านความงามนั้น ในอินเดียใช้ดอกจำปาทำน้ำมันใส่ผมคุณภาพเยี่ยม โดยใช้กลีบดอกสดผสมคลุกเคล้ากับเมล็ดงา เพื่อให้เมล็ดงาดูดซับกลิ่นหอมและเปลี่ยนดอกใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้กลิ่นเข้มข้น จากนั้นนำเมล็ดงาไปผ่านกระบวนการบีบเย็นเพื่อสกัดน้ำมัน ก็จะได้น้ำมันใส่ผมที่มีทั้งคุณค่าบำรุงและกลิ่นหอมจากดอกจำปา น้ำคั้นจากใบจำปาผสมน้ำมันมะพร้าวใช้ทาหนังศีรษะแก้รังแคได้ เปลือกต้นก็ใช้ป่นเป็นผงผสมน้ำมันมะพร้าวสำหรับทาหนังศีรษะกำจัดเหา ส่วนประโยชน์ด้านอื่นๆ นั้น เกษตรกรที่ทำสวนมะพร้าวก็สามารถปลูกต้นจำปาไว้ใกล้ๆ เพราะกลิ่นหอมจากดอกสามารถไล่ด้วงแรดที่เป็นศัตรูพืชตัวฉกาจได้ดีนัก สีเหลืองอมส้มของดอกจำปาใช้ย้อมผ้าได้ด้วยเช่นกัน
ดอกจำปานี้เป็นที่ยกย่องในโลกตะวันตกด้วย ดังจะเห็นว่าหัวน้ำมันดอกจำปา หรือ champaca absolute นั้นได้รับความนิยมมากไม่แพ้หัวน้ำมันดอกไม้ชนิดอื่นๆ ฝรั่งนักผสมน้ำหอมเดี๋ยวนี้ก็หันมาสนใจกลิ่นหอมของดอกไม้จากแดนไกลมากขึ้น เพราะให้กลิ่นเข้มข้นเย้ายวนที่สื่อถึงความหรูหรารุ่มรวยได้เป็นอย่างดี จึงมีการใช้กลิ่นจำปาเป็นส่วนผสมในน้ำหอมต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เป็นแบรนด์ประเภท mainstream หรือที่มีขายทั่วไปตามเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมทั้งแบรนด์จำพวก niche ที่หาซื้อได้ยากกว่า แต่คุณภาพกลิ่นโดยรวมนั้นถือว่าดีกว่า ซึ่งก็แน่นอนว่าราคาย่อมแพงตามไปด้วย ตัวอย่างน้ำหอมกลิ่นจำปาชั้นยอดที่ได้รับความนิยมมากจากบรรดาแฟนน้ำหอมก็คือ Champaca จาก Ormonde Jayne และ Luxe: Champaca จาก Comme des Garçons
กลิ่นจำปามีความหอมหวานเย้ายวนคล้ายผสมผสานขึ้นจากดอกไม้หลายชนิด เช่นกระดังงาและดอกส้ม เจือกลิ่นไม้หอมหรือเครื่องเทศเล็กน้อย วิธีสกัดหัวน้ำมันจำปาที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ supercritical CO2 extraction หรือการสกัดด้วยคาร์บอนด์ไดออกไซด์วิกฤติยิ่งยวด รองลงมาคือการสกัดด้วยตัวทำละลาย หรือ solvent extraction กว่าจะได้หัวน้ำมันดอกจำปาเข้มข้นก็ต้องใช้ดอกจำนวนมาก จึงมีราคาแพงและใช้เฉพาะในอุตสาหกรรมน้ำหอมชั้นสูงเท่านั้น ผู้ผลิตในอินเดียมักผสมน้ำมันไม้จันทน์ลงไปในหัวน้ำมันจำปาด้วยเพื่อให้ รักษากลิ่นหอมไว้ได้นาน ไม่ระเหยไปง่ายๆ น้ำมันหอมที่ได้นี้เรียกว่า “attar
”
นอกจากหัวน้ำมันดอกจำปาจะเป็นที่รู้จักดีในเมืองฝรั่งแล้ว ธูปหอมกลิ่นจำปาจากอินเดียก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เรียกว่า Nag Champa incense ธูปหอมนี้สมัยก่อนคงใช้กลิ่นจำปาแท้ๆ เป็นส่วนผสม แต่ปัจจุบันใช้ยางที่ได้จากต้นมะยมป่าหรือมะยมหอม (Ailanthus malabarica) แทน และเติมกลิ่นไม้จันทน์ ยางไม้และสมุนไพรหอมอีกหลายชนิด หาซื้อได้ง่ายและราคาย่อมเยากว่าน้ำมันดอกจำปามาก
ทางสุคนธบำบัดหรือ aromatherapy ถือว่ากลิ่นจำปามีสรรพคุณคลายความเครียด ทำให้จิตใจสงบและหายใจสะดวก เสริมสร้างความเชื่อมั่นและการมองโลกในแง่ดี กระตุ้นการไหลเวียนของพลังงานไปสู่หัวใจ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศในร่างกาย บรรเทาอาการผิดปกติในช่วงก่อนมีประจำเดือนและในผู้หญิงวัยทอง น้ำมันดอกจำปานี้สามารถใช้หยดในอ่างอาบน้ำหรือใช้นวดตัว ช่วยให้ผิวนุ่มเนียน ลดเลือนริ้วรอย บรรเทาอาการระคายเคือง ช่วยกระชับผิวและควบคุมความมัน กลิ่นจำปายังมีสรรพคุณกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาทางเพศอีกด้วย การจุดเทียนหอมหรือเผาน้ำมันดอกจำปาในเตาน้ำมันหอมระเหยจะช่วยเพิ่มบรรยากาศ โรแมนติคในค่ำคืนพิเศษของคู่รักได้อย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก
sangkae.Blog
และรูปภาพสวยๆจากอินเตอร์เนต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น